การควบคุมการน็อค

หน้าที่ของระบบควบคุมการน็อค

การทำงานของเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ที่เกิดอาการน็อคเป็นเวลานานๆ สามารถนำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรงได้ แนวโน้มการเกิดอาการน็อคจะเพิ่มขึ้นได้จาก :

• อัตราการอัดเพิ่มมากขึ้น
  
• การชาร์จกระบอกสูบมาก
  
• คุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ (RON/MON)
  
• อุณหภูมิของไอดีและของเครื่องยนต์สูง
  

อัตราการอัดสามารถมีค่าที่สูงกว่าปกติได้ เนื่องจากมีสิ่งตะกอนหรือเศษวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการผลิตตกค้างอยู่

สำหรับเครื่องยนต์ที่ไม่มีการควบคุมการน็อค อิทธิพลที่ไม่พึงประสงค์เป็นสิ่งที่จะต้องนำมาพิจารณาในการออกแบบการจุดระเบิด โดยจัดให้มีระยะปลอดภัยสำหรับขีดจำกัดของการน็อค อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นผลให้เกิดการสูญเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อประสิทธิภาพในช่วงโหลดมาก

การควบคุมการน็อคสามารถป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์ได้ เพื่อจุดประสงค์นี้ มันจะหน่วงจังหวะการจุดระเบิดของกระบอกสูบที่เกี่ยวข้อง (เลือกกระบอกสูบได้เอง) เท่าที่จำเป็น เมื่อเครื่องยนต์จะน็อคจริงๆ เท่านั้น ด้วยวิธีนี้ สามารถนำแผนผังแสดงลักษณะการจุดระเบิดมาใช้ เพื่อหาค่าการเผาไหม้ที่ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงขีดจำกัดการน็อค ระยะปลอดภัยก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

ระบบควบคุมการน็อคจะจัดการแก้ไขเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการน็อคทั้งหมดในส่วนจังหวะการจุดระเบิด และทำให้การทำงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แม้ใช้กับน้ำมันสูตรปกติ (อย่างต่ำที่สุด RON 91)

การควบคุมการน็อคจะทำให้มี :

• การป้องกันความเสียหายจากการน็อค ภายใต้สภาพที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
  
• มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากการใช้ประโยชน์จากคุณภาพน้ำมันอย่างเต็มที่ และการพิจารณาสถานะของเครื่องยนต์ที่ตรงกัน
  
• ข้อได้เปรียบด้านการส่งกำลังที่ขึ้นกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่หาได้
  
• ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่า และแรงบิดสูงกว่าตลอดช่วงของโหลดหนัก (ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้)
  

การออกแบบระบบควบคุมน็อค

M60 จะได้รับการติดตั้งให้มี ระบบควบคุมน็อคแบบปรับตัวได้และเลือกกระบอกสูบได้ น็อคเซ็นเซอร์ 4 ตัวจะตรวจจับการเผาไหม้ที่เกิดการน็อค สัญญาณจากเซ็นเซอร์จะประเมินผลใน ชุดควบคุม DME

น็อคเซ็นเซอร์ คือ ไมโครโฟนจับคลื่นเสียงแบบพิเอโซ่อิเล็กตริก มันจะจับคลื่นเสียงในโครงสร้าง และเปลี่ยนเป็นสัญญาณแรงดันไฟฟ้า

ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการน็อค

ถ้ามีการน็อคเกิดขึ้น การจุดระเบิดจะหน่วงเป็นจำนวนรอบของการทำงานที่แน่นอน แล้วจะค่อยๆ กลับเข้าสู่การทำงานที่ค่าเดิม การหน่วงในแต่ละกระบอกสูบนี้สามารถควบคุมได้เป็นอิสระต่อกัน (เลือกกระบอกสูบได้) กระบอกสูบที่น็อคเท่านั้นที่จะถูกหน่วง

ถ้าน็อคเซ็นเซอร์ไม่ทำงาน รหัสความผิดปกติจะบันทึกไว้ในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติของชุดควบคุม DME ในกรณีนี้ เครื่องยนต์จะได้รับการป้องกันด้วยค่าการหน่วงจังหวะการจุดระเบิดที่คงที่

ตำแหน่งติดตั้ง/สภาพ

น็อคเซ็นเซอร์ทั้ง 4 ตัวยึดอยู่กับที่โดยสกรูขนาด 8 มม. ที่โพรงน้ำของเสื้อสูบระหว่างแถวกระบอกสูบทั้งสอง มีการจัดวาง เหมือนว่าเซ็นเซอร์ตัวหนึ่ง ตรวจวัดกระบอกสูบแต่ละตัว ของกระบอกสูบข้างเคียง สองตัว

มีเพียงสารยึดสกรูเท่านั้น ที่อาจจะนำมาใช้เพื่อยึดสกรู ห้ามใช้แหวนรอง, แหวนรองสปริง หรือ แหวนล็อคแบบฟันปลาโดยเด็ดขาด

การทำงานแบบการตรวจสอบตัวเอง และแบบฉุกเฉิน ของระบบควบคุมการน็อค

การวิเคราะห์ตัวเองของระบบควบคุมการน็อคจะรวมการตรวจเช็คต่อไปนี้ :

• การตรวจเช็คเพื่อดูการรบกวนสัญญาณเซ็นเซอร์/สายขาด ตัวต่อปลั๊กที่ไม่ดี เป็นต้น
  
• การทดสอบตัวเองของวงจรการประเมินผลทั้งหมด
  
• การตรวจเช็คระดับเสียงเครื่องยนต์พื้นฐานถูกบันทึกไว้ด้วยน็อคเซ็นเซอร์
  

ระบบควบคุมการน็อคจะหยุดทำงาน ถ้าพบความผิดปกติในระหว่างที่ทำการตรวจเช็คใดๆในสิ่งต่างๆเหล่านี้ โปรแกรมฉุกเฉินจะรับหน้าที่ควบคุมจังหวะการจุดระเบิด ในขณะเดียวกัน มีการบันทึกรหัสความผิดปกติ ในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ โปรแกรมฉุกเฉิน ทำให้แน่ใจว่า การทำงานปราศจากความเสียหาย ตั้งแต่ค่าต่ำสุดของ RON 91 โดยขึ้นอยู่กับโหลด, ความเร็วและอุณหภูมิของเครื่องยนต์

ขั้นตอนการวิเคราะห์ไม่สามารถตรวจได้ว่า ตัวต่อปลั๊กของเซ็นเซอร์สลับกันหรือไม่ เครื่องยนต์อาจได้รับความเสียหายได้ ถ้าเซ็นเซอร์สลับกัน ดังนั้นจึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษระหว่างการเข้าศูนย์บริการ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการต่อเซ็นเซอร์อย่างถูกต้อง (ดูคำแนะนำการซ่อม)