แบตเตอรี่

แบตเตอรี่

ข้อสำคัญ

ปฏิบัติตามคำเตือนและข้อมูลทั้งหมด ที่บริษัทผู้ผลิตได้ระบุไว้ เกี่ยวกับเรื่องข้อควรระวังในการใช้งานแบตเตอรี่ ! แบตเตอรี่ที่หมดไฟแล้วจะชำรุดเสียหายหลังจากทิ้งไว้เพียง 3 วันเท่านั้น !

แบตเตอรี่แบบมีฝาจุกปิดเซลล์

ฝาจุกปิดเซลทำให้สะดวกต่อการเข้าถึงเซลแบตเตอรี่ เพื่อทำการวัดระดับและความหนาแน่นของกรด

การวัดความหนาแน่นของกรด

เมื่อทำการวัดความหนาแน่นของกรด ให้ปฏิบัติตามหมายเหตุต่อไปนี้ :

• ความหนาแน่นของกรดสามารถวัดได้ เมื่อระดับน้ำกรดอยู่เหนือระดับเครื่องหมายต่ำสุดเท่านั้น
  
• ถ้าระดับของน้ำกรด ถึงจุดที่จำเป็นต้องเติมแล้ว จะต้องเติมน้ำลงในเซลล์แบตเตอรี่ และชาร์จแบตเตอรี่ก่อนการวัด จะสามารถทำการวัดความหนาแน่นของกรดได้อีกครั้ง หลังจากการชาร์จประมาณ 6 ชั่วโมง
  
• ค่าความคลาดเคลื่อนสูงสุดที่ยอมได้ ระหว่างค่าความหนาแน่นสูงสุดและต่ำสุดของเซลล์ ต้องไม่เกิน 0.03 kg/l
  
• ต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่ซ้ำ ถ้าความหนาแน่นของน้ำกรดที่วัดได้น้อยกว่า 1.25 kg/l
  

หมายเหตุ

ให้สังเกตความเบี่ยงเบนของความหนาแน่นของกรดในประเทศเขตร้อน ในข้อมูลรายละเอียดจากบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่

แรงดันไฟฟ้าวงจรปิดของแบตเตอรี่จะคำนวณจาก :

• (ความหนาแน่นของกรด + 0.84) x 6 = แรงดันไฟฟ้าขณะไม่มีการใช้งาน
  

แบตเตอรี่รุ่นมีตัวแสดงสถานะแบบแมจิกอาย

เซลล์แบตเตอรี่จะได้รับการซีลปิดไว้หมด ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำการวัดระดับหรือความหนาแน่นของน้ำกรดได้ จึงติดตั้งตัวแสดงสถานะการชาร์จไว้เพื่อแทน

หมายเหตุสำคัญ เกี่ยวกับตัวแสดงสถานะ

หลังจากได้ชาร์จแบตเตอรี่แล้ว ควรจะใช้งานให้บ่อยมากขึ้นเพื่อที่จะขจัดตะกอนบนตัวแสดงสถานะ และเพื่อป้องกันการแสดงที่ไม่ถูกต้อง (ลองเขย่าหรือคว่ำหน้าลง)

ต้องทำการตรวจเช็คแบตเตอรี่ โดยการดูตัวแสดงระดับไฟแบตเตอรี่ ซึ่งแสดงสภาพโดยใช้สี 3 สี :

• สีเขียว :
  ระดับไฟแบตเตอรี่ > 65%, ระดับกรดเป็นปกติ
  
• สีดำ :
  ระดับไฟแบตเตอรี่ < 65%, ระดับกรดเป็นปกติ ควรทำการชาร์จแบตเตอรี่ใหม่
  
• สีเหลือง :
  ระดับน้ำกรดในเซลล์ ต่ำกว่าระดับที่ยอมรับได้ ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่