การควบคุมความเร็วคงที่ 2 (GR 2)

โปรแกรมใช้งาน

ระบบควบคุมความเร็วคงที่ 2 (GR 2) เป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของระบบควบคุมความเร็วที่ทำงานโดยอิสระ (GR 1) เริ่มมีการใช้ตั้งแต่ E38 และในซีรี่ย์ต่อมา โดยมีข้อยกเว้นในรถที่มีการติดตั้งระบบควบคุมคันเร่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EML) และรถดีเซลที่มีชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับเครื่องดีเซลแบบดิจิตอล (DDE)

การควบคุมความเร็วคงที่ทำให้สามารถใช้งานการขับเคลื่อนแบบคงที่ในความเร็วสูงกว่า 30 km/h ได้ โดยไม่พิจารณาถึงลักษณะของภูมิประเทศ ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมจะช่วยให้เพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็วได้อย่างสะดวกมากพอๆ กับการทำให้สามารถขับเคลื่อนตามค่าความเร็วที่บันทึกไว้

หลักในการใช้งาน

ระบบควบคุมความเร็วคงที่ประกอบไปด้วยชุดปฏิบัติงาน, ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม และแอ๊คทูเอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

มีการจ่ายสัญญาณควบคุม และสัญญาณการทำงานที่จำเป็นสำหรับการควบคุมความเร็วคงที่ไปที่ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม มีการแก้ไขตำแหน่งปีกผีเสื้อด้วยแอ๊คทูเอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อที่จะปรับความเร็วในการขับขี่ในระหว่างการควบคุมการขับขี่ที่ความเร็วคงที่ ไปยังค่าความเร็วที่ต้องการ หรือเพื่อเปลี่ยนความเร็วในการขับขี่ในระหว่างการควบคุมการขับขี่ มีการควบคุมแอ๊คทูเอเตอร์โดยระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ สัญญาณป้อนกลับของตำแหน่งแอ๊คทูเอเตอร์ ไปยังระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะปิดวงจรควบคุมสำหรับการวางตำแหน่งปีกผีเสื้อ

ขณะที่ไม่มีการควบคุมการขับขี่ ลิ้นปีกผีเสื้อจะได้รับการควบคุมโดยตรงจากคันเร่งน้ำมัน คันเร่งน้ำมันมีการจัดลำดับทิศทางการเปิดลิ้นปีกผีเสื้อตลอดเวลา (รวมถึงเมื่อการควบคุมความเร็วคงที่มีการทำงาน) มีการขัดจังหวะการขับขี่ที่ควบคุมความเร็วคงที่ ด้วยเงื่อนไขการปิดสวิตช์ที่ต่างกันหลายอย่าง เช่น การกดแป้นเบรค หรือแป้นคลัตช์

หมายเหตุ

มีการต่อการควบคุมความเร็วคงที่ GR 2 ไปยังสายต่อเชื่อมการวิเคราะห์โดยตรง ในกรณีที่มีความผิดปกติในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ จะต้องมีการตรวจเช็คสายต่อเชื่อมการวิเคราะห์ระหว่างซอคเก็ตการวิเคราะห์ กับชุดควบคุมสำหรับการควบคุมความเร็วคงที่

รุ่น

โดยขึ้นอยู่กับประเภทรถยนต์, ระดับของอุปกรณ์รถยนต์ และรุ่นเฉพาะประเทศ ระบบควบคุมความเร็วคงที่จะได้รับการสั่งงานโดยผ่านทางชุดปฏิบัติงานที่รวมอยู่ในพวงมาลัย (พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, MFL) หรือไม่ก็ทางสวิตช์แกนพวงมาลัย การทำงานด้วยสวิตช์แกนพวงมาลัยเกิดขึ้นโดยมี หรือไม่มีเมนสวิตช์ก็ได้ มีการแยกกันระหว่างประเภทของระบบเกียร์ที่ติดตั้ง (เกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ) และประเภทของสวิตช์ไฟเบรค (แบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบกล)

การให้รหัส

มีการปรับชุดควบคุมการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) โดยใช้การให้รหัสข้อมูลคาร์เร็คเตอร์ริสติกของฟังก์ชั่นของประเภทรถยนต์ต่างๆ, ระดับอุปกรณ์รถยนต์ และข้อมูลรุ่นประเทศ

ในการส่ง ชุดควบคุมจะแสดงลักษณะการให้รหัสพื้นฐานไว้แล้ว ดังนั้นฟังก์ชั่นการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) จึงใช้งานได้เลย จึงสามารถคาดการณ์ได้ว่าคาร์เร็คเตอร์ริสติกในการควบคุมความสะดวกสบายจะแย่ลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การให้รหัสประเภทต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดสถานการณ์การขับขี่ที่เสี่ยงอันตรายได้

ข้อมูลต่อไปนี้มีบรรจุอยู่ในข้อมูลรหัส :

การทำงานการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท)

การควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) GR 2 ได้รับการสั่งงานโดยใช้ชุดปฏิบัติงานหลายชุด :

เมนสวิตช์

เมนสวิตช์ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นปุ่มกด หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปยังตำแหน่ง 1 หรือ 2 จะมีการตั้งการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ให้พร้อมสำหรับการทำงานโดยการกดเมนสวิตช์ โหมดสแตนด์บายนี้ได้เตรียมระบบ (ให้มีใช้งาน) ซึ่งต้องมีการทำก่อนที่จะเปิดการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ฟังก์ชั่นนี้มีไว้เพื่อป้องกันระบบการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) เปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ

มีการแสดงสถานะสแตนด์บายเทมโพแมทโดย LED ในแผงหน้าปัด

หลังจากที่ระบบได้เปลี่ยนไปอยู่ในโหมดสแตนด์บาย และอยู่ในสถานะเปิดทั้งหมดแล้ว สามารถตั้งการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ให้มีการทำงานได้โดยการกดปุ่ม "เร่ง"

มีการยกเลิกโหมดสแตนด์บายเทมโพแมทโดยการกดเมนสวิตช์อีกครั้ง แล้วการทำงานการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) จะไม่สามารถทำงานได้ สามารถยกเลิกการสแตนด์บายการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ได้ทุกเวลาไม่ว่าสถานะรถยนต์ที่เกี่ยวข้องจะเป็นอย่างไร จะมีการทำงานแบบเดียวกัน เมื่อมีการบิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง 0 หรือ เมื่อชุดควบคุมการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ตรวจพบความผิดปกติของระบบได้

เร่งความเร็ว

มีการเปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) โดยการกดปุ่ม "เร่ง" บนพวงมาลัย เมื่อมีการกดปุ่มอย่างต่อเนื่อง ความเร็วจะเพิ่มขึ้นอีกด้วยการเพิ่มอัตราเร่งโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม จะมีการเปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) เมื่ออยู่ในสถานะเปิดทั้งหมดแล้ว สถานะเปิด คือ :

• เทมโพแมทที่เตรียมพร้อมโดยเมนสวิตช์ (ถ้ามีการติดตั้ง)
  
• ตำแหน่งพักของปุ่ม "เร่ง" ก่อนทำการเปิดการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท)
  
• จะต้องเกินค่าความเร็วต่ำสุด 30 km/h
  
• แป้นเบรคจะต้องอยู่ในตำแหน่งพัก
  
• บนรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา แป้นคลัตช์จะต้องอยู่ในตำแหน่งพัก
  
• บนรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ จะต้องเข้าเกียร์ที่ระดับเกียร์เดินหน้าจาก "2" เป็น "D"
  
• จะต้องไม่มีสถานะ ปิด อยู่เลย สามารถเกิดสถานะ ปิด ขึ้นได้ โดยการทำงานของอุปกรณ์ควบคุม (เช่น กดปุ่ม "ปิด" บนชุดปฏิบัติงาน) หรือไม่ก็ เกิดขึ้นเนื่องจากตรวจพบสถานะความผิดปกติ (เช่น ลัดวงจรที่มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ เป็นต้น) มีการบันทึกความผิดปกติในรูปของรหัสความผิดปกติในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ
  

หลังจากปล่อยปุ่มแล้ว การขับเคลื่อนด้วยความเร็วคงที่ที่ความเร็วในขณะนั้นจะมีผลทำงานทันที

หน่วงความเร็ว

จะมีการลดความเร็วลงจากการควบคุมการขับขี่ในระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ด้วยการกดปุ่ม "หน่วงความเร็ว" บนพวงมาลัย ในกรณีนี้ การทำงานในการหน่วงความเร็วของรถจะมีผลทำงานทันที ปีกผีเสื้อจะมีการเลื่อนกลับจากสถานะในขณะนั้นไปที่ตำแหน่งรอบเดินเบา ซึ่งจะมีผลให้มีการลดความเร็วลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแรงเบรคเครื่องยนต์ และสภาพภูมิประเทศทำให้สามารถเป็นไปได้ด้วย

ขั้นตอนนี้มีผลนานเป็นเวลาเท่าที่ยังมีการกดปุ่ม "หน่วงความเร็ว" อยู่ อย่างไรก็ตาม จะไม่สามารถตกลงจนต่ำกว่าค่าความเร็วต่ำสุดได้ ซึ่งทำให้เป็นไปได้ที่จะลงไปได้ถึงค่าความเร็วต่ำสุดตามที่กำหนดได้

หลังจากปล่อยปุ่มแล้ว การขับเคลื่อนด้วยความเร็วคงที่ที่ความเร็วในขณะนั้นจะมีผลทำงานทันที

ขั้นตอนการหน่วงสามารถถูกขัดจังหวะการทำงานโดยการมีสถานะ ปิด เกิดขึ้น :

• การปิดจากเมนสวิตช์
  
• การกดแป้นเบรค
  
• การกดแป้นคลัตช์ (เกียร์ธรรมดา)
  
• การเข้าเกียร์ที่ระดับเกียร์ "P" หรือ "N" (อัตโนมัติ)
  
• จะต้องไม่มีสถานะความผิดปกติ (เช่น ลัดวงจรที่มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์) มีการบันทึกความผิดปกติในรูปของรหัสความผิดปกติในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ
  

เริ่มต้นใหม่

การกดปุ่ม "เริ่มต้นใหม่" จะทำให้สามารถเปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ได้ และจะขึ้นไปจนถึงค่าความเร็วที่บันทึกไว้โดยอัตโนมัติ ด้วยการใช้อัตราการเร่งที่กำหนด แล้วจึงเข้าสู่ช่วงความเร็วในการขับขี่คงที่ สามารถไปถึงค่าความเร็วที่บันทึกไว้ได้จากการขับที่ไม่มีการควบคุมโดยการกดปุ่ม "เริ่มต้นใหม่"

เปลี่ยนเกียร์ขึ้น, เปลี่ยนเกียร์ลง

• เปลี่ยนเกียร์ขึ้น :
  ความเร็วในการขับขี่จะเพิ่มเป็นขั้นทุกๆ 1 km/h โดยการแตะปุ่ม "เร่ง"
  ปีกผีเสื้อจะต้องอยู่ภายนอกของตำแหน่งโหลดเต็มที่ ถ้าไม่อยู่ในลักษณะดังกล่าว จะไม่สนใจการทำงานของปุ่ม
  
• เปลี่ยนเกียร์ลง :
  ความเร็วในการขับขี่จะลดลงเป็นขั้นทุกๆ 1 km/h โดยการแตะปุ่ม "หน่วงความเร็ว"
  

ฟังก์ชั่นทั้งสองจะสามารถทำได้ในระหว่างการควบคุมการขับแบบความเร็วคงที่เท่านั้น จะต้องไม่กดปุ่มที่สัมพันธ์กันเป็นเวลานานกว่า 0.5 วินาที ถ้ามีการกดปุ่มเป็นเวลานาน จะเป็นการทำงานฟังก์ชั่นปกติ "เร่ง" หรือ "หน่วงความเร็ว"

คัทเอาต์ฟังก์ชั่นคอมฟอร์ท

โดยการกดปุ่ม "ปิด" ระบบควบคุมความเร็วคงที่จะตัดการทำงานอย่างนิ่มนวล

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ไปถึงตำแหน่งรอบเดินเบา หลังจากผ่านไป 2 วินาทีที่ตำแหน่งสุดท้าย ล็อคขั้วบวกระหว่างปีกผีเสื้อกับชุดควบคุมจะถูกยกเลิกโดยการถอดสายคลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์ แอ๊คทูเอเตอร์ยังคงอยู่ในสภาพนี้ จนกว่าจะมีการเปิดการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ครั้งต่อไป

คัทเอาต์แบบเร็ว

อุปกรณ์ช่วยการคัทเอาต์แบบเร็วจะยกเลิกล็อคขั้วบวกระหว่างชุดควบคุมกับปีกผีเสื้อ โดยการเปิดคลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์ ขั้นตอนนี้เกิดขึ้นภายใน 0.5 วินาที

เพื่อความปลอดภัย จะมีการจ่ายกำลังให้มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ในการบังคับทิศทางปีกผีเสื้อ จนกระทั่งจะตรวจพบสถานะ "คลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์ เปิด"

สภาพคัทเอาต์นี้มีการกระตุ้นการทำงานโดย :

• การกดแป้นเบรค
  
• การกดแป้นคลัตช์สำหรับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา
  
• การเข้าเกียร์ที่ระดับเกียร์ "N" หรือ "P" สำหรับรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ
  
• การกระทำผิดในการทดสอบด้านความปลอดภัย : ชุดควบคุมทำการตรวจเช็คสัญญาณอินพุตและเอาต์พุตในระหว่างการทำงานการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ระบบจะหยุดทำงาน ถ้ามีสภาพที่ไม่สอดคล้องกันเกิดขึ้นที่อินพุตหรือเอาต์พุต
  

อินเตอร์เฟสระบบเกียร์

มีจุดต่อให้ระหว่างระบบเกียร์กับชุดควบคุมเทมโพแมทสำหรับรถยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้แน่ใจว่าคาร์เร็คเตอร์ริสติกการขับขี่แบบที่ให้ความสะดวกสบาย สำหรับขั้นตอนของการควบคุมการขับขี่แบบความเร็วคงที่, การเร่งความเร็ว และการหน่วงความเร็ว

สิ่งจำเป็นสำหรับชุดควบคุมเทมโพแมท คือต้องใช้โปรแกรมระบบเกียร์สำหรับควบคุมการขับขี่ โปรแกรมระบบเกียร์นี้จะช่วยให้แน่ใจได้ว่าจะป้องกันการเปลี่ยนเกียร์ซ้ำระหว่างเกียร์ที่ใกล้เคียงกัน

โปรแกรมระบบเกียร์จะพิจารณาสถานะการขับขี่ต่อไปนี้ :

การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างชุดควบคุมเทมโพแมทกับชุดควบคุมระบบเกียร์ เกิดขึ้นโดยผ่านสายไฟเดี่ยวจากชุดควบคุมเทมโพแมทไปยังชุดควบคุมระบบเกียร์ การส่งผ่านข้อมูลจะเริ่มขึ้นเมื่อมีการจ่ายแรงดันไฟฟ้าของชุดควบคุม เมนสวิตช์เทมโพแมทไม่มีผลต่อการเริ่มและสิ้นสุดการส่งข้อมูล

ถ้าเกิดความผิดปกติในการส่งผ่านข้อมูล สำหรับระบบควบคุมการส่งกำลังแล้ว จะมีค่าเท่ากับสถานะ "การควบคุมความเร็วคงที่ รอการทำงาน" ถ้าหลังจากเกิดความผิดพลาดในการส่งผ่านข้อมูลแล้ว ได้รับสัญญาณที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ก็จะมีการพิจารณาระบบควบคุมการส่งกำลังอีกครั้งหนึ่ง

การตรวจเช็คความปลอดภัย

ชุดควบคุมตรวจเช็คสัญญาณอินพุตและเอาต์พุตในระหว่างการทำงานการควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ระบบจะหยุดทำงาน ถ้ามีสภาพที่ไม่สอดคล้องกันเกิดขึ้นที่อินพุตหรือเอาต์พุต

สถานการณ์ต่อไปนี้สามารถส่งผลให้ระบบหยุดทำงานได้ :

จุดเริ่มทำงานตามความเร็วต่ำสุด

จุดเริ่มทำงานตามความเร็วต่ำสุด (จุดเริ่มทำงานตามความเร็ว v_{ต่ำสุด} ) จะป้องกันการทำงานควบคุมการขับขี่ที่ต่ำกว่าความเร็ว 30 km/h

ถ้าก่อนที่จะเกิน v_{ต่ำสุด} , สัญญาณได้จ่ายไปที่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) เรียบร้อยแล้ว ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) จะไม่เปิด หลังจากที่เกินค่าจุดเริ่มทำงานนี้

ฟังก์ชั่นเทมโพแมททั้งหมดจะมีการล้างค่าอีกครั้ง หลังจากที่ยกเลิกการทำงานในช่วงความเร็วที่ยอมได้

ถ้าความเร็วตกลงต่ำกว่าจุดเริ่มทำงาน v_{ต่ำสุด} จากการทำงานควบคุมการขับขี่ เนื่องจากสถานการณ์การขับขี่รุนแรงที่สุด (เช่น กราเดียนท์) จะมีการคัทเอาต์การทำงานอย่างกระทันหันเกิดขึ้น

การใช้ฟังก์ชั่นระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท)

จะมีการทำงานในระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ก็ต่อเมื่อชุดปฏิบัติการอยู่ที่ตำแหน่งพักก่อนที่จะเริ่มทำงาน

ฟังก์ชั่นจะทำงานด้วยนัยสำคัญที่กำหนด เพื่อที่จะหลีกเลื่ยงการเกิดสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายจากการเรียกฟังก์ชั่นระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ขึ้นพร้อมกัน

การตรวจสถานะโอเวอร์ไดรฟ์

คลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์จะปล่อยออก ถ้าค่าควบคุมความเร็วของการขับขี่เกินมามากกว่า 8 km/h เนื่องจากปลอกที่ยื่นเกินออกมา (การขับลงเนิน) หรือการกดคันเร่งน้ำมัน จุดเริ่มทำงานนี้จะสามารถมีผลภายใต้ทุกๆ สภาพของเทมโพแมท เมื่อคลัทช์ปล่อยออก ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) จะยังคงทำงานอยู่ คลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์จับอีกครั้ง เมื่อความเร็วตกลงต่ำกว่าค่าจุดเริ่มทำงาน

อุปกรณ์ช่วยการคัทเอาต์โอเวอร์ไรด์จะยกเลิกระบบควบคุมความเร็วคงที่ เมื่อความเร็วเกินค่าที่ตั้งไว้มากกว่า 16 km/h ในระยะเวลามากกว่า 30 วินาที

ค่าความเร็วสูงสุดที่ควบคุม

มีการจำกัดค่าความเร็วสูงสุดที่ควบคุมที่ยอมได้ไว้ที่ค่าที่แน่นอน ค่าที่แน่นอนนี้กำหนดอยู่ในข้อมูลรหัส

การคัทเอาต์อย่างเร็วจะทำงาน ถ้าความเร็วเกินค่าสูงสุดที่ควบคุมโดยมีการกดที่คันเร่งน้ำมันต่ำลง

เมื่อไปถึงค่าความเร็วสูงสุดที่ควบคุมโดยการกดปุ่ม "เร่ง" อัตราเร่งจะหยุดลง และความเร็วจะรักษาระดับให้คงที่

การหน่วงคัทเอาต์

มีการปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ในกรณีที่มีการหน่วงความเร็วรถที่มากเกินไป ในกรณีนี้ จะมีการกำหนดการหน่วงความเร็วรถโดยอาศัยสัญญาณความเร็ว

เพื่อความปลอดภัย จะมีฟังก์ชั่นการคัทเอาต์นี้อยู่ นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการคัทเอาต์โดยผ่านทางแป้นเบรค

การหยุดทำงานโดยผ่านคันเกียร์ในช่วงเดินหน้า (เกียร์อัตโนมัติ)

การคัทเอาต์อย่างเร็วของระบบควบคุมความเร็วคงที่จะเกิดขึ้น หลังจากมีการเลื่อนคันเกียร์เดินหน้าออกจากระดับ "D" เข้าสู่ "N" หรือ "P" ในระหว่างการขับที่ควบคุม

การล็อคการเร่งรอบเครื่องสูงเกินไปสำหรับเกียร์ธรรมดา

การหยุดทำงานของระบบควบคุมความเร็วคงที่จะเกิดขึ้นอย่างเร็ว ในกรณีที่มีการเร่งรอบเครื่องสูงเกินไป เนื่องจากไม่มีการต่อขั้วบวกระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ (เช่น โดยการเข้าสู่รอบเดินเบาในระหว่างระบบควบคุมความเร็วคงที่ ที่ไม่มีการทำงานคลัทช์)

การทำงานของขั้นตอนการคัทเอาต์นี้คือ การเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบเครื่องอย่างชัดเจนโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับความเร็วในการขับขี่

การแสดงสถานะเวลารีเซตของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์

จะมีการตรวจสถานะเวลารีเซตของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ทันทีที่ฟังก์ชั่นการหยุดทำงานเกิดขึ้น ถ้าเกินเวลารีเซตสูงสุด จะมีการบันทึกรหัสความผิดปกติในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ และระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ไม่สามารถทำงานได้อีกครั้ง จนกว่าจะปิดสวิตช์กุญแจ และเปิดอีกครั้ง

การทดสอบคลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์

หลังจากการจ่ายแรงดันไฟฟ้า จะมีการตรวจสถานะของระดับแรงดันไฟฟ้าที่ส่วนเอาต์พุตของชุดควบคุมไปยังคลัทช์แอ๊คทูเอเตอร์ตลอดเวลา จะมีการอ่านค่าระดับแรงดันไฟฟ้าของคลัทช์ และนำมาเปรียบเทียบกับสถานะที่ตั้งไว้ในชุดควบคุม

ถ้าสถานะทั้งสองไม่ตรงกัน ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) จะไม่สามารถเปิดได้ หรือถ้าเปิดได้ มันจะเริ่มการหยุดทำงานอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีรหัสความผิดปกติปรากฏขึ้นในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติอีกด้วย

การลบค่าความเร็วที่บันทึกไว้

จะมีการลบค่าความเร็วที่บันทึกไว้ เมื่อมีการบิดสวิตช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง 2

การทดสอบการสลับการทำงาน

"การทดสอบการสลับการทำงาน" จะช่วยตอบสนองวัตถุประสงค์ของการแสดงสถานะการส่งสัญญาณระหว่างชุดปฏิบัติการในพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น (MFL) และชุดควบคุมเทมโพแมท (GR2) เพื่อวัตถุประสงค์นี้ สัญญาณการทำงานได้บรรจุบิททดสอบการเปลี่ยนแปลงไว้เป็นปกติ ซึ่งจะมีการตรวจสถานะอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายใน 1 วินาที จะมีการกระตุ้นฟังก์ชั่นการหยุดทำงานแบบเร็ว รวมทั้งมีการบันทึกรหัสความผิดปกติในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ

การแสดงสถานะแรงดันไฟฟ้าของโพเทนชิออมิเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์

จากเวลาที่มีการเปิดแรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟชุดควบคุม แรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟของโพเทนชิออมิเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ก็จะได้รับการตรวจสถานะด้วย ในกรณีที่มีความเบี่ยงเบนจากค่าปกติ ระบบควบคุมความเร็วคงที่ไม่สามารถยอมรับได้ หรือมีการหยุดทำงานอย่างเร็ว โดยมีการบันทึกรหัสความผิดปกติในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ

การตรวจสถานะการควบคุม

ฟังก์ชั่นการตรวจสถานะการควบคุมจะมีผลหลังจากเปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ในฟังก์ชั่นนี้ ตำแหน่งที่ตั้งไว้ของปีกผีเสื้อจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับตำแหน่งปัจจุบันของปีกผีเสื้อโดยการประเมินค่าโพเทนชิออมิเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์

อุปกรณ์ช่วยในการตรวจสถานะทำให้สามารถตรวจจับความผิดปกติในแอ๊คทูเอเตอร์ หรือในการทำงานได้

ถ้าไม่มีสิ่งที่จำเป็นต่อการทดสอบครบทั้งหมด ระบบควบคุมความเร็วคงที่จะหยุดทำงาน และจะมีการบันทึกรหัสความผิดปกติลงในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ

การทดสอบภายใน-ชุดควบคุม

การทดสอบหน่วยความจำจะทำงาน เมื่อมีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า

จะมีการตรวจสถานะการทำงานของโปรแกรมที่ถูกต้องในระหว่างการทำงาน

ถ้าตรวจพบจุดบกพร่องในการทดสอบหนึ่งในสองชุดนี้ จะไม่สามารถเปิดระบบควบคุมความเร็วคงที่ (เทมโพแมท) ได้อีก และจะบันทึกรหัสความผิดปกติลงในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ