แผงหน้าปัด (E52)

เนื้อหาโดยทั่วไป

แผงหน้าปัดประกอบด้วยโมดูลต่างๆ 7 โมดูล (4 โมดูลเป็นแบบเข็มชี้ และอีก 3 โมดูลเป็นตัวแสดงผลและตัวควบคุม) รวมทั้งชุดควบคุมหนึ่งชุดที่มีชุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับควบคุมโมดูลต่างๆ ชุดควบคุมนี้ต่ออยู่กับชุดสายไฟรถยนต์ และมีอินเตอร์เฟสแบบบัสสามชุด (บัสการวิเคราะห์, K บัส, CAN บัส) ทำหน้าที่ในการติดต่อ (โดยใช้สายข้อมูลแบบอนุกรม) ไปยังชุดควบคุมชุดอื่นๆ รวมทั้งการติดต่อกับเซ็นเซอร์ต่างๆ อีกด้วย

แผงหน้าปัดแบ่งออกเป็นโมดูลย่อยๆ ได้แก่ :

• จอแสดงผลความเร็ว
  
• เทคโคมิเตอร์
  
• เกจน้ำมันเชื้อเพลิง
  
• ส่วนแสดงอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์
  
• ส่วนควบคุมและแสดงผล
  
• ไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย
  
• ไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยวขวา
  
• ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด
  

การเปลี่ยนชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

กรณีทั้งสี่ที่จะอธิบายต่อไปนี้ แสดงถึงว่า ในกรณีใดจะต้องทำขั้นตอนใด เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแผงหน้าปัดทำอย่างถูกต้องแล้ว

กรณีที่ 1 : ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดผิดปกติ และชุดควบคุมโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) เป็นปกติ

กรณีที่ 2 : ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดเป็นปกติ และชุดควบคุมโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ผิดปกติ

กรณีที่ 3 : ต้องเปลี่ยนชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดและชุดควบคุมโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM)

ไม่ควรเปลี่ยนชุดควบคุมทั้งสองชุดพร้อมกัน ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น (ค่าระยะทางรวมที่บันทึกไว้หายไป โดยไม่สามารถเรียกกลับมาได้อีก)

กรณีที่ 4 : ขณะตรวจเช็ค ให้เปลี่ยนชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดหรือชุดควบคุมโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM)

หมายเหตุ

โดยหลักการแล้ว ถึงแม้ว่าจะสามารถเปลี่ยนชุดควบคุมชุดใดชุดหนึ่งในสองชุดได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกรณีดังกล่าวนี้เท่าที่จะทำได้

ฟังก์ชั่นการทดสอบ

การทดสอบระบบ (การทดสอบหมายเลข 2) : การทดสอบระบบจะทำหน้าที่ทดสอบโมดูลส่วนแสดงผล พร้อมกับอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมได้จากชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

อุปกรณ์เหล่านี้คือ :

• อุปกรณ์วัดแบบเข็มทั้งหมด
  
• จอ LC พร้อมการทดสอบเซ็กเมนต์และไฟพื้นหลังทั้งหมด
  
• ไฟเตือนและไฟแสดง
  

การเลือกฟังก์ชั่นทดสอบ :

นอกเหนือจากการทดสอบหมายเลข 1 และ 2 จะต้องใช้ฟังก์ชั่นการทดสอบหมายเลข 19 ในการสั่งอินเตอร์ล็อคและปลดล็อคฟังก์ชั่นทดสอบอื่นทั้งหมด

ขั้นตอน : กดปุ่มรีเซ็ตตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยวและค้างไว้ (ประมาณ 5 วินาที) ที่ตำแหน่งเทอร์มินอล R "ON" จนกระทั่งปรากฏข้อความ "__tESt__1._" ขึ้นในส่วนแสดงผลของแผงหน้าปัด จากนั้น สามารถเลือกการทดสอบที่ต้องการได้ (การทดสอบระบบ ตรงกับการทดสอบ 2 "__tESt__2._") โดยกดปุ่มอีกครั้งและปล่อยปุ่มภายใน 1 วินาที ฟังก์ชั่นย่อยฟังก์ชั่นแรกของการทดสอบที่เลือกไว้จะปรากฏขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 1 วินาที สามารถเลือกฟังก์ชั่นย่อย (การทดสอบระบบไม่มีฟังก์ชั่นย่อยอื่นอีก) ของการทดสอบนั้นๆ ได้โดยกดปุ่มอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากไม่มีฟังก์ชั่นย่อยอื่นที่สัมพันธ์กับการทดสอบ 2 (การทดสอบระบบ) การทดสอบระบบจะเริ่มทำงานหลังจากมีข้อความ "__tESt__2.0" ปรากฏขึ้น และจะมีการกดปุ่มรีเซ็ตระยะเดินทางต่อเที่ยว ถ้าเป็นการทดสอบที่ล็อคไว้ (การทดสอบ 3 ถึง 21) สามารถปลดล็อคได้โดยกดปุ่มรีเซ็ตระยะเดินทางต่อเที่ยว ขณะที่ข้อความ "_L_OFF" ปรากฏขึ้นในจอแสดงผล จากนั้น จอแสดงผลจะไปที่การทดสอบ 0 เพื่อให้สามารถเลือกการทดสอบนั้นๆ ได้ด้วยการกดปุ่มเป็นระยะสั้นๆ

จอแสดงผลความเร็ว

โมดูลแสดงความเร็ว ประกอบด้วยส่วนแสดงผล/ตัวแสดงต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับรุ่นของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีไฟเตือนสำหรับระบบควบคุมการทรงตัว (ASC/DSC, สีเหลือง), ระบบควบคุมกำลังเครื่องยนต์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EML) และจอแสดงผล (LCD) ซึ่งแสดงค่าระยะทางรวม, ระยะเดินทางต่อเที่ยว และไฟแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ ไฟแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ SIA4 ซึ่งเป็นการแสดงค่าตามปริมาณความสิ้นเปลืองของการเข้ารับบริการตามระยะทาง ซึ่งหมายความว่า จะแสดงระยะทางที่เหลืออยู่ก่อนเข้ารับบริการ และถ้าได้ให้รหัสไว้ จะแสดงการเข้ารับบริการตามรอบระยะเวลา ซึ่งมีแสดงวันที่ถึงกำหนดด้วย ตำแหน่งระยะทางสำหรับการแสดงความเร็ว (มาตรวัดความเร็ว) จะได้มาจากชุดควบคุม ASC/DSC และเป็นสัญญาณที่แปลงค่าแล้วจากเซ็นเซอร์วัดความเร็วล้อหลังซ้าย

จอแสดงผลความเร็วรอบเครื่อง

นอกจากนี้ โมดูลส่วนแสดงผลความเร็วรอบเครื่อง (เทคโคมิเตอร์) ยังมีไฟเตือนการชาร์จแบตเตอรี่, หลังคาเปิดประทุนแบบหลังคาผ้า, ระบบเตือนความผิดปกติของยางรถ (RFC, DWS), ระบบป้องกันการเบรคล็อคล้อ (ABS, สีเหลือง), ไฟเตือนเบรคทั่วไป, ไฟเตือนตรวจเช็คเครื่องยนต์ และความดันน้ำมันเครื่อง/ระดับน้ำมันเครื่อง (สีแดง/สีเหลือง) และได้รวมนาฬิกาแบบอนาล็อกที่สามารถปรับตั้งให้เดินหน้าและถอยหลังได้ไว้ในโมดูลนี้แล้ว

ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะทำหน้าที่ควบคุมส่วนแสดงความเร็วรอบเครื่อง และจะส่งข้อมูลความเร็วรอบเครื่องไปยังชุดควบคุมอื่นๆ ผ่านทาง K บัส ข้อมูลความเร็วรอบเครื่องจะมีค่าเป็น 0 [rpm] เมื่อบิดสวิตช์กุญแจไปที่ OFF

เกจน้ำมันเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ โมดูลเกจน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีไฟเตือนสำหรับแสดงน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองด้วย

และใช้เซ็นเซอร์แบบก้านที่ต่ออยู่กับชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ในการวัดปริมาณน้ำมันในถังน้ำมันเชื้อเพลิง เซ็นเซอร์แบบก้านจะต่อสายกราวด์ (กราวด์อนาล็อก) แยกต่างหาก และสายสัญญาณวัด (ขั้วบวกแบบอนาล็อก) ต่อกับชุดควบคุม ไม่มีหน้าสัมผัสถังน้ำมันสำรองในชุดเซ็นเซอร์ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อสั่งให้ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองทำงาน และจะจ่ายสัญญาณ "น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง" เป็นข้อมูลของระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองจะติดสว่าง โดยทำงานเปรียบเทียบปริมาณน้ำมันในถัง กับค่าขีดจำกัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง การกำหนดค่าระดับน้ำมันเชื้อเพลิง จะปรับตามรูปร่างของถังน้ำมันเชื้อเพลิง ผ่านทางข้อมูลรหัส และลักษณะความต้านทานของเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง

การแสดงผลอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น

โมดูลเกจอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นมีไฟเตือนระดับอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นสูงเกินด้วยเช่นกัน

ชุดควบคุมเครื่องยนต์ทำหน้าที่วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น และชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะอ่านค่าอุณหภูมินี้ผ่านทาง CAN บัส ชุดควบคุมจะตรวจวัดค่าอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นในขณะนั้นจากข้อมูล CAN บัส หลังจากนั้นจะส่งข้อมูล "อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น" ผ่านทาง K บัส ไปยังระบบอื่นๆ

นอกจากนี้ ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดยังตรวจวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นโดยใช้เซ็นเซอร์ (NTC) ของมันเอง โดยจะแสดงอุณหภูมินี้ในโมดูลเกจอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ในระหว่างช่วงกำหนดการทำงานของ CAN บัส

เนื่องจาก หลังจากดับเครื่องแล้ว เครื่องยนต์ยังคงให้ความร้อนแก่น้ำหล่อเย็นต่อไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงได้นำ "ฟิลเตอร์สำหรับการให้ความร้อนภายหลัง" ในซอฟท์แวร์ของชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดมาใช้ป้องกันการเพิ่มของอุณหภูมิเกจวัด ขณะเครื่องยนต์หยุดทำงาน เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง ฟังก์ชั่นนี้จะตรวจจับอุณหภูมิที่สูงกว่าเมื่อ "ดับเครื่องยนต์" และจะแสดงค่าขณะ "ดับเครื่องยนต์" นี้ หลังจากนั้นประมาณ 20 วินาที จะแสดงอุณหภูมิในขณะนั้น ขณะเครื่องยนต์กำลังทำงาน

การเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น

ขณะ "บิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON" ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งให้ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นติดสว่าง เป็นเวลา 2 วินาที (การตรวจสอบก่อนการขับขี่) หลังจากนั้นชุดควบคุมเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ควบคุมไฟเตือนนี้ผ่านทาง CAN บัส ถ้าชุดควบคุมเครื่องยนต์สั่งให้ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นติดสว่าง ข้อมูล CAN นี้จะส่งผ่านทาง K บัส ไปยังชุดควบคุมชุดอื่นด้วย

ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะรับค่าผ่านทาง CAN บัส และจะควบคุมเกจอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นให้สอดคล้องกัน เมื่อถึงค่าสูงสุด จะเลื่อนเข็มชี้ไปที่ระดับกึ่งกลางของแถบเตือนสีแดง

จอแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ

จอแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ (SIA) แสดงให้คนขับและศูนย์บริการทราบถึงกำหนดการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, กำหนดการเข้ารับบริการตามระยะทาง หรือ กำหนดการเข้ารับบริการตามเวลา รอบเวลาการเข้ารับบริการของรถ จะไม่ได้พิจารณาตามระยะทางเป็นกิโลเมตร แต่จะขึ้นอยู่กับความสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า สถานะของระยะเวลาการเข้ารับบริการจะแสดงขึ้น ตั้งแต่ที่ตำแหน่งเทอร์มินอล 15 "ON" เป็นเวลา 10 วินาที หลังจากถึงค่าความเร็วรอบเครื่องต่ำสุดที่ 400 rpm

ข้อมูลของจอแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ (SIA) จะบันทึกไว้ในโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ด้วย

จะสามารถรีเซ็ตจอแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ (SIA) ได้โดยใช้สัญญาณกระตุ้นตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ จากปุ่มรีเซ็ตระยะเวลาการเข้ารับบริการ ขั้นตอนการรีเซ็ตของแต่ละอย่าง สามารถทำแยกกันได้ (การรีเซ็ตจอแสดงระยะเวลาการเข้ารับบริการ [SIA]) การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, กำหนดการเข้ารับบริการตามเวลา และ/หรือ การเข้ารับบริการตามระยะทาง สามารถทำการรีเซ็ตได้

ค่าระยะทางรวม

จอแสดงผลที่แสดงระยะทางในการขับรวม เป็นส่วนหนึ่งของจอ LC ที่รวมอยู่ในโมดูลจอแสดงความเร็ว (มาตรวัดความเร็ว) ระยะเดินทางในปัจจุบันจะปรากฏขึ้นในจอแสดง ตั้งแต่ตำแหน่งเทอร์มินอล R "ON" ในขณะที่เทอร์มินอล R "OFF" การกดและปล่อยปุ่มรีเซ็ต จะเป็นการแสดงค่าระยะเดินทางเป็นเวลาประมาณ 25 วินาที หน่วยของระยะทาง (กม./ไมล์) ขึ้นอยู่กับรุ่นประเทศที่ให้รหัสไว้ จะแสดงขึ้นระหว่างอุปกรณ์บันทึกระยะทางรวมและตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยว ระยะทางทั้งหมดจะอยู่บน บอดี้บัสในลักษณะของเทเลแกรม (K บัส)

ระยะทางรวม บันทึกอยู่ในชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดและในโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM)

ค่าของตัวบันทึกะยะทางต่อเที่ยว

จอแสดงผลที่แสดงระยะเดินทางต่อเที่ยว เป็นส่วนหนึ่งของจอ LC ในโมดูลจอแสดงความเร็ว (มาตรวัดความเร็ว) ค่าระยะการเดินทางต่อเที่ยวในปัจจุบัน จะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล ตั้งแต่ตำแหน่งเทอร์มินอล R "ON" ในขณะที่เทอร์มินอล R "OFF" กดปุ่มที่แผงหน้าปัดและปล่อย จะเป็นการแสดงระยะเดินทางเป็นเวลาประมาณ 25 วินาที หน่วยของระยะทาง (กม./ไมล์) ขึ้นอยู่กับรุ่นประเทศที่ให้รหัสไว้ จะแสดงขึ้นระหว่างอุปกรณ์บันทึกระยะทางรวมและตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยว

เซ็นเซอร์อุณหภูมิภายนอก

ชุดควบคุมที่มีชุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับควบคุมโมดูลต่างๆ จะตรวจวัดอุณหภูมิภายนอกในขณะนั้น จากเซ็นเซอร์อุณหภูมิภายนอก (ตัวต้านทาน NTC) เซ็นเซอร์อุณหภูมิภายนอกต่ออยู่กับกราวด์ (กราวด์อนาล็อก) แยกต่างหากของตัวมันเอง และสายสัญญาณวัด (ขั้วบวกแบบอนาล็อก) ต่ออยู่กับชุดควบคุมที่มีชุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับควบคุมโมดูล

แผงหน้าปัดจะส่งข้อมูล "อุณหภูมิภายนอก" ผ่านบัส และวิทยุข้อมูลรวม (MIR) จะทำหน้าที่แสดงผล ขณะสวิตช์กุญแจอยู่ที่ตำแหน่ง "0" ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะอ่านค่าจากเซ็นเซอร์อุณหภูมิภายนอกเป็นระยะๆ ภายในช่วงเวลาหนึ่งนาที ในกรณีนี้ ชุดควบคุมแผงหน้าปัดจะทำงานในช่วงสั้นๆ มันจะให้ข้อมูล "อุณหภูมิภายนอก" แล้วจะหยุดทำงานอีกครั้ง (โหมดสแตนบาย)

การปรับความสว่างของเครื่องวัด

การปรับความสว่างของแผงหน้าปัดและไฟแสงสว่างของจอ LC สามารถทำได้หลายวิธี ส่วนของโมดูลไฟในโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) จะใช้สัญญาณแบบโมดูเลตตามความกว้างพัลส์ (58g) ในการปรับความสว่างของแผงหน้าปัด เมื่อไฟดับ จะใช้ข้อมูลความสว่างจากโฟโตทรานซิสเตอร์ที่รวมอยู่ในโมดูลมาตรวัดความเร็ว ในการควบคุมความสว่างของจอ LC และจะปรับความสว่างของจอ LC ตามสภาพแสดงสว่างจากภายนอก เมื่อไฟติดสว่าง ความเข้มของแสงสว่างของจอ LC สามารถปรับเพิ่มได้ในช่วงจำกัดระดับหนึ่ง โดยใช้ปุ่มปรับความสว่าง อย่างไรก็ตาม ระดับความสว่างจากภายนอกที่รับผ่านทางโฟโตทรานซิสเตอร์ มีความสำคัญต่อการควบคุมความสว่างของจอ LC มากกว่าอย่างอื่น

ไฟเตือนและไฟแสดง

เนื้อหาโดยทั่วไป : จะใช้ LED เป็นไฟพื้นหลังของสัญลักษณ์ไฟเตือนทั้งหมด โดยใช้ LED สองสีเป็นสัญลักษณ์ซึ่งจะติดสว่างเป็นสีแดงหรือสีเหลือง

ไฟเตือนเบรคทั่วไป : ไฟเตือน (สีแดง) สามารถสวิตช์เปิดได้โดยโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) โดยผ่านทางระบบบัส เมื่อ LCM ตรวจพบว่าระดับน้ำมันเบรคต่ำเกินไป ชุดควบคุมการทรงตัวของล้อ (ASC) จะสั่งให้ไฟเตือน (สีแดง) ทำงานด้วย ถ้า ASC ตรวจพบการทำงานผิดปกติในการกระจายแรงเบรคแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBV) หรือไม่มีข้อมูล ASC ส่งผ่านทาง CAN บัส จากชุดควบคุม ASC ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ไฟเตือนจะติดสว่างขึ้นด้วย เมื่อบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON โดยใส่เบรคจอดรถไว้ หรือเพื่อตรวจเช็คการทำงาน (การตรวจสอบก่อนการขับขี่) ในกรณีที่เป็นการตรวจสอบก่อนการขับขี่ ไฟเตือนจะติดสว่างเป็นสีแดงและสีเหลืองเป็นเวลา 1 วินาที ถ้าได้ให้รหัสการทำงานของระบบช่วยแรงเบรค (HBA) ไว้ มิฉะนั้นไฟเตือนจะติดสว่างเป็นสีแดงเท่านั้นเป็นเวลา 2 วินาที ไฟเตือนจะติดสว่างเป็นสีแดงเท่านั้น ถ้าใส่เบรคจอดรถ

ไฟเตือนจะติดสว่างเป็นสีเหลืองเท่านั้น ถ้าไม่มีสัญญาณเตือนที่เป็นกรณีที่ต้องใช้ไฟเตือนสีแดง ชุดควบคุมการทรงตัวของล้อ (ASC) จะสั่งให้ไฟเตือน (สีเหลือง) ทำงาน ผ่านทาง CAN บัส ถ้า ASC ตรวจพบการทำงานผิดปกติในระบบช่วยแรงเบรค (HBA)

ไฟแสดงเข็มขัดนิรภัย : ข้อมูลรหัส เป็นตัวกำหนดการทำงานของไฟแสดงเข็มขัดนิรภัย สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีหน้าคอนแทคหัวเข็มขัดนิรภัย ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยจะสว่างขึ้นเป็นเวลาประมาณ 6 วินาที หลังจากเทอร์มินอล 15 "ON"

สัญญาณเทเลแกรมบัสจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) จะทำงาน จนกว่าหน้าคอนแทคล็อคเข็มขัดจะเปิด (หัวเข็มขัดนิรภัยล็อคเข้า)

ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง : ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองไม่ได้ทำงานโดยการสั่งงานจากหน้าสัมผัสถังน้ำมันสำรองในเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำมัน มันจะทำงานเปรียบเทียบปริมาณน้ำมันในถัง กับค่าขีดจำกัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง

และจะจ่ายสัญญาณ "น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง" เป็นข้อมูลของระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ในกรณีของการตรวจเช็คการทำงาน ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองจะติดสว่างเป็นเวลา 2 วินาที ขณะเทอร์มินอล 15 ON (การตรวจสอบก่อนการขับขี่)

ไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยว : ไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยวจะทำงานตามสัญญาณเทเลแกรมบัส ที่ส่งจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ไฟตัดหมอกด้านหลัง : ไฟตัดหมอกด้านหลัง จะทำงานตามสัญญาณเทเลแกรม I บัส ที่ส่งจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ไฟเตือนไฟสูง : ไฟเตือนไฟสูง จะทำงานตามสัญญาณเทเลแกรม I บัส ที่ส่งจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ไฟแสดงความดันน้ำมัน : สวิตช์ความดันน้ำมันเครื่องเป็นตัวสั่งงานไฟเตือน (สีแดง)

ไฟเตือน (สีเหลือง) จะทำงานตามสัญญาณเทเลแกรม K บัส ที่ส่งจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ (LCM) ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ชุดควบคุมเครื่องยนต์จะประเมินสัญญาณจากเซ็นเซอร์ระดับน้ำมันในเครื่องยนต์ และจะส่งข้อมูล CAN ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ซึ่งทำหน้าที่แปลงข้อมูล CAN และส่งในรูปของข้อมูล K บัส ไปยังโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะแปลงข้อมูลดังกล่าวตามข้อมูลรหัส และส่งสัญญาณเทเลแกรม K บัส ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ซึ่งควบคุมการเตือนระดับน้ำมัน และจะกำหนดลำดับความสำคัญในการเตือนความดันน้ำมันเครื่อง

ไฟแสดงน้ำมันเครื่องจะติดสว่างเป็นสีเหลืองในกรณีต่อไปนี้ :

• เซ็นเซอร์ระดับน้ำมันผิดปกติ : ชุดควบคุมเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ตรวจสอบเซ็นเซอร์ระดับน้ำมัน และถ้าตรวจพบความผิดปกติ จะส่งข้อมูลไปยังโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ และบันทึกความผิดปกตินี้ไว้ในหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลจากชุดควบคุมเครื่องยนต์นี้ (ซึ่งได้รับการแปลงโดยข้อมูลรหัสแล้ว) โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะสั่งให้ไฟแสดงน้ำมันเครื่องทำงาน (สีเหลืองสำหรับการเตือนระดับน้ำมันเครื่อง) ผ่านทาง K บัส เป็นเวลา 30 วินาที เพื่อที่จะเกิดในกรณีดังกล่าวนี้ สวิตช์กุญแจจะต้องอยู่ที่ตำแหน่ง ON และจะต้องตรวจพบความเร็วรอบเครื่องหรือความดันน้ำมันเครื่องด้วย
  
• ความสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่อง : ชุดควบคุมเครื่องยนต์จะตรวจจับความสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานเท่านั้น และจะส่งข้อมูลดังกล่าวยังโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ ขณะที่สวิตช์กุญแจอยู่ที่ ON ข้อมูลนี้จะบันทึกอยู่ในโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ และไฟแสดงน้ำมันเครื่องจะติดสว่างขึ้น (สีเหลืองสำหรับการเตือนระดับน้ำมันเครื่อง) ผ่านทาง K บัส หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ OFF (สวิตช์กุญแจอยู่ในตำแหน่ง 0) ไฟเตือนระดับน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเวลาประมาณ 30 วินาที
  
• ตรวจจับการสูญเสียน้ำมันเครื่อง : ชุดควบคุมเครื่องยนต์จะตรวจจับการสูญเสียน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานเท่านั้น และจะส่งข้อมูลนั้นยังโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จากนั้น โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะสั่งให้ไฟแสดงน้ำมันเครื่องทำงานทันที (สีเหลืองสำหรับการเตือนระดับน้ำมัน) ผ่านทาง K บัส
  

ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น : เมื่อ "บิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON" ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งให้ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นทำงาน เป็นเวลา 2 วินาที (การตรวจสอบก่อนการขับขี่) หลังจากนั้นชุดควบคุมเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ควบคุมไฟเตือนนี้ผ่านทาง CAN บัส ถ้าชุดควบคุมสั่งให้ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นทำงาน จะมีข้อมูล CAN ส่งผ่านระบบบัสที่ต่ออยู่ไปยังชุดควบคุมชุดอื่น

ไฟแสดงการชาร์จแบตเตอรี่ : อัลเทอร์เนเตอร์คอมแพคจะสั่งงานไฟเตือน โดยใช้สายสัญญาณ ("ไม่ชาร์จ") ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ไฟแสดงระบบป้องกันการเบรคล็อคล้อ : ระบบ ABS ทำหน้าที่สั่งงานไฟเตือนนี้ ไฟเตือนนี้ จะติดสว่างขึ้นด้วยในกรณีที่สายสัญญาณเปิดวงจร สัญญาณ High (แรงดันไฟฟ้าของระบบ) ไฟเตือนติดสว่าง, สัญญาณ Low (กราวด์) ไฟเตือนดับ และสายสัญญาณ High (ค่าโอห์มสูง, ขาด) ไฟเตือนติดสว่าง, ฟังก์ชั่นนี้จะใช้พิจารณาหาสาเหตุการขาดของสายสัญญาณ

ไฟแสดงถุงลมนิรภัย : เมื่อมีสัญญาณ (กราวด์) จากชุดควบคุมถุงลมนิรภัย ไฟเตือนจะติดสว่างขึ้น

ตรวจเช็คเครื่องยนต์ (ไฟเตือนไอเสีย) : ชุดควบคุมจะทำหน้าที่สั่งงานไฟเตือน "ตรวจเช็คเครื่องยนต์" ผ่านทาง CAN บัส

ไฟเตือนระบบควบคุมเสถียรภาพโดยอัตโนมัติ (ASC) : ระบบ ASC ทำหน้าที่สั่งงานไฟเตือน ASC ผ่านทาง CAN บัส ในกรณีของการตรวจเช็คการทำงาน หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ระบบ ASC จะสั่งไฟเตือนให้ทำงาน เป็นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ (การตรวจสอบก่อนการขับขี่)

ไฟเตือนสำหรับระบบเตือนความผิดปกติของยางรถ (DWS / RFC) : ระบบเตือนความผิดปกติของยางรถจะสั่งให้ไฟเตือนความผิดปกติของยางรถทำงาน โดยการส่งสัญญาณเทเลแกรมบัสไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ในการตรวจเช็คการทำงาน ไฟเตือนจะติดสว่างเป็นเวลา 2 วินาที (การตรวจสอบก่อนการขับขี่) ถ้าให้รหัสระบบไว้ในข้อมูลรหัสของชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด

ไฟเตือนสำหรับระบบควบคุมกำลังเครื่องยนต์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EML) : ชุดควบคุมเครื่องยนต์จะสั่งงานไฟเตือน EML ผ่านทาง CAN บัส ถ้าไม่มีข้อมูล EML ส่งจากชุดควบคุมเครื่องยนต์ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดผ่านทาง CAN บัส ไฟเตือนจะติดสว่าง 1.5 วินาที หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON (ค่าในโหมดฉุกเฉิน)

การเตือนการสึกหรอของผ้าเบรค (BBV) : ไฟเตือนการสึกหรอของผ้าเบรคอยู่ในโมดูลไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยวด้านซ้ายมือ และทำงานตามคำสั่งจากชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ไฟเตือนจะติดสว่างอยู่ประมาณ 2 วินาที หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ในลักษณะของการตรวจเช็คการทำงาน (การตรวจสอบก่อนการขับขี่)

เซ็นเซอร์ประกอบด้วยขดลวดตัวนำในผ้าเบรคด้านหลังขวาและหน้าซ้าย ซึ่งต่อกันในแบบอนุกรม ในกรณีที่ผ้าเบรคสึก ขดลวดตัวนำจะขาด ซึ่งทำให้ไม่ครบวงจร และเมื่อชุดควบคุมตรวจพบความผิดปกตินี้ ไฟเตือนก็จะทำงาน ไฟเตือนนี้จะดับไป ถ้าตรวจไม่พบการขาด (ไม่ครบวงจร) เป็นเวลา 30 วินาที หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON และเครื่องยนต์ไม่ทำงาน

ไฟเตือนหลังคาเปิดประทุนแบบหลังคาผ้า : โมดูลหลังคาเปิดประทุน (CVM) ทำหน้าที่สั่งงานไฟเตือนหลังคาเปิดประทุนแบบหลังคาผ้า ผ่านทางสายสัญญาณ ไฟเตือนจะติดสว่างขึ้น เมื่อหลังคาผ้าทำงาน ไฟเตือนจะกะพริบ ถ้าหลังคาผ้าไม่ล็อคเข้าในตำแหน่งสุด

สัญญาณเตือนระบบไฟส่องสว่าง

ตัวกำเนิดเสียงสำหรับสัญญาณเตือนระบบไฟส่องสว่าง และการทำงานของสัญญาณไฟเลี้ยว จะรวมอยู่ในโมดูลส่วนแสดงผลความเร็ว (มาตรวัดความเร็ว) สัญญาณเตือนระบบไฟส่องสว่างจะส่งเสียง 8 รอบ (1 รอบ = ON เป็นเวลา 500 มิลลิวินาที / OFF เป็นเวลา 500 มิลลิวินาที) เมื่อสวิตช์กุญแจอยู่ในตำแหน่ง "0", ประตูคนขับเปิดเป็นครั้งแรก และไฟแผงหน้าปัดติดสว่างอยู่ ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะอ่านข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการกระตุ้นการทำงานของสัญญาณเตือนระบบไฟส่องสว่าง ผ่านทาง K บัส รวมทั้งทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมด้วย

การเตือนสวิตช์กุญแจ

ฟังก์ชั่น "การเตือนสวิตช์กุญแจ" จะรวมอยู่ในข้อมูลรหัส โดยชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งให้ฟังก์ชั่นนี้ทำงานได้ ก็ต่อเมื่อได้ให้รหัสไว้แล้วเท่านั้น (โดยปกติจะมีในรุ่น USA เท่านั้น) โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะกระตุ้นการทำงานการเตือนแบบเสียงผ่านทางสัญญาณเทเลแกรม K บัส หลังจากนั้น ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งให้ชุดเสียงสัญญาณ 3 (T3) ทำงาน

การเตือนสวิตช์กุญแจจะทำงานเป็นเวลาสูงสุด 60 วินาที ขณะสวิตช์กุญแจอยู่ในตำแหน่ง OFF และประตูคนขับเปิดอยู่ และจะยกเลิกการเตือนทันที ถ้าชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดได้รับสัญญาณเทเลแกรม K บัสจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ

เจนเนอเรเตอร์สัญญาณกระตุ้นการทำงานสำหรับสัญญาณไฟเลี้ยว

ตัวกำเนิดเสียงสำหรับการทำงานของสัญญาณไฟเลี้ยว และสัญญาณเตือนระบบไฟส่องสว่าง จะรวมอยู่ในโมดูลส่วนแสดงผลความเร็ว (มาตรวัดความเร็ว) ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งงานรีเลย์เสียงโดยสอดคล้องกับสัญญาณไฟเลี้ยวด้านซ้ายและขวา รวมทั้งไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยว โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะส่งข้อมูล "สัญญาณไฟเลี้ยวทำงาน" ผ่านทาง K บัส ซึ่งควบคุมการซิงโครไนซ์กันด้วย ถ้าตรวจพบ จะแจ้งความผิดปกติของไฟแสดงสัญญาณไฟเลี้ยวไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ในรูปสัญญาณเทเลแกรม K บัส หลังจากนั้น ไฟแสดงทั้งสองจะทำงานที่ระดับสองเท่าของความถี่นาฬิกา

ชุดเสียงสัญญาณ

ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดสั่งงานชุดเสียงสัญญาณ 3 (T3) และจะกระตุ้นการทำงานการเตือนด้วยเสียง สำหรับการเตือนเข็มขัดนิรภัย, การเตือนสวิตช์กุญแจ, การเตือนเบรคจอดรถ, การเตือนความผิดปกติของยางรถ และการเตือนความเร็ว โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลรหัสและข้อมูล K บัส เสียงสัญญาณ 3 (T3) จะส่งเสียงดังและหยุดซ้ำกันหลายๆ ครั้ง หรือสั้นๆ หนึ่งครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการเตือน

การเตือนเข็มขัดนิรภัยด้วยเสียง : การเตือนเข็มขัดนิรภัยด้วยเสียง จะทำงานโดยสัมพันธ์กับหน้าคอนแทคล็อคเข็มขัดนิรภัยคนขับและการให้รหัสที่ตรงกันเท่านั้น โมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ จะกระตุ้นและหยุดการทำงานการเตือนผ่านทาง K บัส เมื่อหน้าคอนแทคล็อคเข็มขัดเปิดอยู่ ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดจะสั่งงานชุดเสียงสัญญาณ 3 (T3) เป็นระยะๆ เป็นเวลาสูงสุด 6 วินาที หลังจากบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ชุดเสียงสัญญาณจะหยุดทำงาน ถ้าทำการล็อคเข็มขัดนิรภัย ภายในช่วงระยะเวลานี้

การเตือนสวิตช์กุญแจด้วยเสียง : การเตือนสวิตช์กุญแจจะทำงานเป็นเวลาสูงสุด 60 วินาที ขณะสวิตช์กุญแจอยู่ที่ OFF และประตูคนขับเปิดอยู่ โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ให้รหัสไว้ และจะยกเลิกการเตือนทันที ถ้าชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัดได้รับสัญญาณเทเลแกรม K บัสจากโมดูลเช็ค-คอนโทรล/ไฟ

การเตือนความเร็วด้วยเสียง : ชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด จะกระตุ้นการทำงานในการเตือนความเร็ว โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ให้รหัสไว้ และจะส่งเสียงเตือนสั้นๆ โดยใช้ชุดเสียงสัญญาณ 3 (T3) ถ้าเกินความเร็วขีดจำกัด ถ้าความเร็วลดลงต่ำกว่าขีดจำกัดมากกว่า 5 กม./ชม. ชุดเสียงจะได้รับการกระตุ้นอีกครั้งเมื่อเกินขีดจำกัด

การเตือนเบรคจอดรถ : การเตือนเบรคจอดรถของชุดเสียงสัญญาณจะทำงานทันทีที่ใช้เบรคจอดรถ และตรวจพบว่าความเร็วรถสูงกว่า 3 กม./ชม. โดยจะส่งเสียงเป็นระยะๆ ถ้าหากอยู่ในสถานะการเตือน แต่จะเป็นเวลาสูงสุด 20 วินาที เท่านั้น

การเตือนความผิดปกติของยางรถด้วยเสียง : ระบบเตือนความผิดปกติของยางรถจะส่งสัญญาณไฟเตือนความผิดปกติของยางรถ ผ่านทาง K บัส ไปยังชุดควบคุมโมดูลแผงหน้าปัด ถ้าได้ให้รหัสการเตือนความผิดปกติของยางรถด้วยเสียงไว้ การเตือนด้วยเสียงจะทำงาน เมื่อบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON

สรุปตัวเลือกของชุดเสียงสัญญาณ