ระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ

ระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติประกอบด้วยฟังก์ชั่นย่อยๆ ได้แก่

Comfort Entry

การทำงานในส่วนของ Comfort Entry จะอำนวยความสะดวกในการเข้าไปภายในรถโดย

Comfort Go

การทำงานในส่วน Comfort Go จะช่วยให้สามารถสตาร์ทรถโดยไม่จำเป็นต้องเสียบรีโมทคอนโทรลในสวิตช์กุญแจ

Comfort Exit (การล็อคกันขโมยให้กับรถยนต์)

การทำงานในส่วนของ Comfort Exit จะช่วยอำนวยความสะดวกในการล็อครถ

การทำงานเกี่ยวกับระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ

การทำงานเกี่ยวกับระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับมือจับประตู จำเป็นต้องรีเซ็ตระบบการเข้า-ออกรถ ทั้งสองวิธีการต่อไปนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ :

  1. ฟังก์ชั่นบริการ : ฟังก์ชั่นบริการ -> การขับขี่ -> CAS -> การรีเซ็ต CAS
  2. ฟังก์ชั่นชุดควบคุมภายใต้ CAS

หมายเหตุ

เมื่อมีการรีเซ็ต CAS ไฟที่ปุ่มเปิด-ปิดจะดับลงชั่วขณะ

คำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับอุปกรณ์

ชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ

ชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติจะติดตั้งอยู่ในแผ่นปิดที่ด้านขวาในช่องเก็บสัมภาระ โดยจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ :

ชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติจะมีหน่วยความจำรหัสความผิดปกติสำหรับโมดูลประตู

ชุดควบคุมการเข้า-ออกรถ

ชุดควบคุมการเข้า-ออกรถจะมีฟังก์ชั่นการทำงานต่อไปนี้ :

ชุดควบคุมการเข้า-ออกรถจะมีหน่วยความจำรหัสความผิดปกติสำหรับตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรล

โมดูลประตูสำหรับระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ

โมดูลประตูของระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติประกอบด้วยชุดอิเล็กทรอนิกส์มือจับประตูด้านนอก (TAGE) และมือจับประตูด้านนอก (TAG) ฟังก์ชั่นต่อไปนี้จะรวมอยู่ในมือจับประตูด้านนอกแต่ละตัว :

ชุดอิเล็กทรอนิกส์ของมือจับประตูด้านนอก จะดำเนินการในสิ่งต่อไปนี้ :

เสาอากาศส่งสัญญาณแบบเหนี่ยวนำ

ชุดควบคุมการรับรู้รีโมทคอนโทรลอัตโนมัติจะสั่งการทำงานของเสาอากาศส่งสัญญาณ 8 ชุดต่อไปนี้ :

พร้อมเสาอากาศในประตู 4 ชุด รวมเป็นเสาอากาศทั้งหมด 12 ชุดทั้งภายในและภายนอกตัวรถ

บัสข้อมูล K-CAN สำหรับระบบ

บัสข้อมูลระบบ K-CAN เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างแผงหน้าปัดกับชุดควบคุมในแชสซี, ระบบกันสะเทือน ชุดส่งกำลัง และตัวถัง การรับส่งข้อมูลเกิดขึ้นโดยใช้เทเลแกรมข้อมูล

บัสย่อยของระบบการรับรู้รีโมทคอนโทรลอัตโนมัติ (K-TAGE)

K-TAGE บัสจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อไปนี้ของระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติและระบบการตรวจสอบสิทธิการใช้รถของคนขับ :

ตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรล

นอกเหนือจากการทำงานปกติโดยใช้รีโมทคอนโทรลแบบคลื่นวิทยุแล้ว ตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลจะมีเครื่องรับวิทยุด้วย เครื่องรับวิทยุดังกล่าวทำให้สามารถตอบสนองสัญญาณวิทยุ จากเสาอากาศของตัวส่งสัญญาณของรถยนต์ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลได้

ฟังก์ชั่นหลัก

ฟังก์ชั่น Comfort Entry และ Comfort Go จะทำงานเมื่อความเร็วรถ = 0 เท่านั้น

Comfort Entry (การปลดล็อคประตู)

การดึงมือจับประตูด้านนอก (TAG) และการกดสวิตช์ฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายที่ด้านนอก จะเป็นการส่งคำสั่งสำหรับการตรวจสอบสิทธิการใช้รถของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลของรถยนต์ คำสั่งนี้จะถูกส่งผ่านเสาอากาศส่งสัญญาณของ TAG แต่ละชุด หรือในกันชน ตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลของรถยนต์ต้องอยู่ในช่วงการส่งสัญญาณของเสาอากาศ เพื่อให้สามารถตอบสนองคำสั่งได้ นอกจากนี้ ระบบการเข้า-ออกรถ (CAS) จะตรวจเช็คว่าตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลได้รับอนุญาตให้ใช้งานหรือไม่ หากได้รับอนุญาต ระบบทำการปลดล็อคที่ประตู ฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายออก อุปกรณ์ที่ถูกปลดล็อคจะได้รับการกำหนดโดยชุดอุปกรณ์ย่อย ที่ทำหน้าที่สั่งการทำงานของการตรวจสอบสิทธิการใช้รถ (มือจับประตูด้านนอกหรือสวิตช์ที่ฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายด้านนอก)

ขณะปิดช่องเก็บสัมภาระ เสาอากาศที่ช่องเก็บสัมภาระจะเรียกขอคำสั่งยืนยันของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลของรถยนต์ ถ้าตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลในช่องเก็บสัมภาระตอบรับ และไม่มีตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลอื่นภายนอกช่องเก็บสัมภาระ ฝากระโปรงหลังจะเปิดออกอีกครั้ง แต่ถ้าตรวจพบตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลอื่นภายนอกช่องเก็บสัมภาระ ฝากระโปรงหลังจะยังคงปิดอยู่ ตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลที่อยู่ในช่องเก็บสัมภาระจะถูกยึดไว้เป็นตัวส่งสัญญาณที่พร้อมใช้งานได้ สำหรับการปลดล็อครถในครั้งต่อไป

Comfort Go (การสตาร์ทรถยนต์)

เมื่อมีการกดปุ่มสตาร์ทและเหยียบแป้นเบรก เสาอากาศภายในรถจะค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลที่อยู่ในรถ ถ้าตรวจพบตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลอยู่ภายในรถ ระบบจะทำการตรวจสอบสิทธิการใช้รถของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรล ถ้าตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลได้รับอนุญาตให้ใช้งาน ระบบ CAS จะทำให้สามารถสตาร์ทรถได้ สำหรับเสาอากาศจะได้รับการสั่งงานโดยชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ

Comfort Exit (การล็อคกันขโมยให้กับรถยนต์)

การกดมือจับประตูด้านนอก จะเป็นคำสั่งเพื่อล็อครถยนต์ ซึ่งจะมีการทำตามคำสั่งเมื่อประตูทั้งหมดปิดอยู่เท่านั้น หลังจากที่กดที่มือจับประตูแล้ว ระบบจะทำการค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลภายนอกรถ โดยใช้เสาอากาศด้านนอก ถ้าตรวจพบตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลภายนอกตัวรถ ก็จะทำการล็อครถทันที จากนั้น จะมีการใช้ฟังก์ชั่นป้องกันการถูกล็อคอยู่ภายนอก (ลืมกุญแจไว้ในรถ) โดยการค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลภายในห้องโดยสาร ถ้าตรวจพบตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลซึ่งได้รับการตรวจสอบจากมือจับประตูด้านนอกอยู่ภายในห้องโดยสาร ระบบจะปลดล็อครถอีกครั้งหนึ่ง สำหรับตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลตัวอื่นๆ นั้น สามารถที่จะทิ้งไว้ในรถยนต์ได้ ข้อความเช็ค-คอนโทรลที่เกี่ยวข้องจะแสดงขึ้น เพื่อแจ้งให้คนขับทราบเกี่ยวกับตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลนี้

การปลดล็อคและการเปิดฝากระโปรงหลัง/ประตูท้าย

คำสั่งเปิดฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายของรถยนต์จะได้รับการสั่งงาน เมื่อกดสวิตช์ฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายด้านนอก ขณะที่ล็อครถอยู่ จะมีการค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลโดยใช้เสาอากาศที่ด้านหลัง โดยโมดูลจ่ายกำลังไฟจะส่งคำสั่งสำหรับการค้นหาผ่าน CAN ไปยัง CAS และชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะทำการค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรล

การปิดฝากระโปรงหลัง

ตัวล็อคของฝากระโปรงหลังจะปิดโดยใช้กลไก ถ้าโมดูลจ่ายกำลังไฟตรวจพบสถานะ 'ฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายล็อคอยู่' ชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ จะเริ่มค้นหาตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลโดยใช้เสาอากาศที่ช่องเก็บสัมภาระ ถ้าตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลในช่องเก็บสัมภาระตอบรับ ชุดควบคุม CAS จะส่งคำสั่งเพื่อเปิดฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายไปยังโมดูลจ่ายกำลังไฟ ตัวยกฝากระโปรงหลัง/ประตูท้ายจะเปิดฝากระโปรงหลัง/ประตูท้าย ถ้ามีตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลตัวอื่นอยู่ในช่วงการส่งสัญญาณของเสาอากาศรถยนต์ ช่องเก็บสัมภาระจะยังคงปิดอยู่ ตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลที่ล็อคอยู่ในช่องเก็บสัมภาระ จะไม่สามารถนำมาใช้ในการเปิดรถในครั้งต่อไปได้

การกำหนดตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรล

การกำหนดตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลให้กับเสาอากาศของรถแต่ละชุดจะทำงานโดยอัตโนมัติ โดยเสาอากาศของรถจะได้รับการสั่งงานตามลำดับพร้อมการหน่วงเวลา ด้วยสัญญาณวิทยุ การหน่วงเวลานี้จะทำให้เกิดกรอบของเวลาสำหรับเสาอากาศแต่ละชุด ซึ่งตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลที่ค้นพบโดยเสาอากาศนั้นๆ จะสามารถตอบรับได้ การตอบรับของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลในกรอบเวลานี้ จะทำให้สามารถกำหนดตำแหน่งของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลโดยอ้างอิงกับเสาอากาศส่งสัญญาณได้

สิทธิการเข้ารถ/สิทธิการสตาร์ทรถ

หลังจากที่ได้รับสัญญาณวิทยุจากเสาอากาศส่งสัญญาณที่ได้กำหนดไว้แล้ว ตัวส่งสัญญาณของตัวบ่งชี้รีโมทคอนโทรลก็จะส่งรหัสวิทยุเพื่อเป็นการตอบรับ ถ้าตัวรับสัญญาณรีโมทคอนโทรลแบบคลื่นวิทยุภายในรถได้รับข้อมูลตอบกลับที่ถูกต้อง จะสั่งให้ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่กำหนดไว้สามารถทำงานได้ ด้วยวิธีนี้ ทำให้สามารถที่จะเข้ารถ และ/หรือ สตาร์ทรถได้ โดยไม่ต้องกดปุ่มหรือทำการอย่างใดกับรีโมทคอนโทรลเลย

การป้องกันการใช้งานโดยไม่ตั้งใจ

ถ้ามีการสั่งการทำงานของระบบซ้ำกันหลายๆ ครั้งติดต่อกัน เซ็นเซอร์แบบเก็บประจุที่อยู่ในมือจับประตูด้านนอกก็จะไม่ทำงาน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้โดยการเปิดประตูจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด การป้องกันการใช้งานโดยไม่ตั้งใจนี้จะถูกรีเซ็ต เมื่อปลดล็อคระบบเซ็นทรัลล็อค

ระบบป้องกันการทำงานซ้ำ

ถ้าระบบเซ็นทรัลล็อคเปลี่ยนการทำงานจากสถานะ 'ปลดล็อค' เป็น 'ล็อค' 20 ครั้งภายใน 2 นาที จะไม่สามารถปลดล็อคได้เป็นเวลาประมาณ 2 นาที ถ้าระบบป้องกันการทำงานซ้ำ 'ทำงาน' จะยังคงสามารถเปิดประตูของ E65 ได้ เนื่องจากมอเตอร์เปิดแบบไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่ ซึ่งเป็นการยกสลักล็อคขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานะนี้สามารถเปลี่ยนได้โดยที่ประตูเปิด แต่ต้องตั้งปุ่มล็อคไว้ที่ล็อค

ระบบป้องกันการทำงานซ้ำจะทำงานหลังจากสั่งให้มอเตอร์เสริมแบบไฟฟ้าทำงานมาแล้ว 50 ครั้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ถ้าเปิดประตูหลายๆ ครั้งติดต่อกันขณะปลดล็อครถ

การกำหนดการทำงาน

สำหรับระบบการรับรู้รีโมทคอนโทรลอัตโนมัติ จะต้องกำหนดการทำงานของอุปกรณ์ต่อไปนี้

การกำหนดการทำงานของชุดควบคุมการรับรู้รีโมทคอนโทรลอัตโนมัติและมือจับประตูด้านนอก

หลังจากการเปลี่ยนชุดควบคุมระบบการรับรู้รีโมทคอนโทรลอัตโนมัติหรือมือจับประตูด้านนอกแล้ว ต้องทำการกำหนดการทำงานด้วย การกำหนดการทำงานได้รับการกระตุ้นให้ทำงานโดยการสลับจากเทอร์มินอล 0 ไปยังเทอร์มินอล R เมื่อมีการสลับเทอร์มินอล R ชุดควบคุมระบบการเข้ารถจะส่งการกำหนดการทำงานโดยอัตโนมัติไปยังชุดควบคุมระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ และจากนั้นจะส่งต่อไปยังมือจับประตูด้านนอก อีกทั้ง เป็นไปได้ที่จะกำหนดการทำงานของชุดควบคุมโดยใช้โมดูลทดสอบได้อีกด้วย : หัวต่อการวิเคราะห์ / ฟังก์ชั่นบริการ / ระบบการเข้ารถแบบอัตโนมัติ / การกำหนดการทำงาน โดยสามารถตรวจเช็คการกำหนดการทำงานได้ในโมดูลทดสอบนี้