แผงหน้าปัด : การแสดงผลและฟังก์ชั่นต่างๆ

แผงหน้าปัดที่ทำการติดตั้งมีอยู่หลายรุ่น ฟังก์ชั่นต่างๆ ของแผงหน้าปัดแสดงขึ้นในหลายส่วนแสดงผล นอกจากนี้ยังมีเสียงเตือนดังขึ้นพร้อมกับการแสดงข้อความด้วย แผงหน้าปัดมีความสามารถในการรับวิเคราะห์บนเครื่องทดสอบการวิเคราะห์ และมีฟังก์ชั่นการทดสอบตัวเองรวมอยู่ด้วย ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ต่างๆ สามารถให้รหัสได้ และฟังก์ชั่นเหล่านี้จะแสดงผลโดยใช้ :

อุปกรณ์วัดแบบเข็ม :

• ความเร็วรถ
  
• ความเร็วรอบเครื่อง
  
• อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น
  
• ปริมาณน้ำมันในถัง
  

จอ LC ส่วน 1 :

• ระยะเดินทางรวม
  
• มาตรวัดระยะทาง (สามารถรีเซ็ตได้)
  
• ระยะเดินทางในหน่วยกิโลเมตรหรือไมล์
  
• จุดปรับ
  
• เวลา (แสดงแบบ 12 ชั่วโมงหรือ 24 ชั่วโมง)
  
• กำหนดการเข้ารับบริการ (SIA) พร้อมระยะทางก่อนเข้ารับบริการครั้งถัดไป (การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและการตรวจสภาพ) และวันที่เข้ารับบริการ
  
• คำแนะนำในการรีเซ็ตเมนูเพื่อเริ่มต้นกำหนดการเข้ารับบริการใหม่
  
• การแสดงชั่วโมงด้วยกับ A (Anti Meridian : a.m. = ก่อน 12:00) และ P (Post Meridian : p.m. = หลัง 12:00)
  
• ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยในหน่วย MPG (ไมล์ต่อแกลลอน) หรือใน l/100 กม.หรือลิตร/กม.
  
• ความเร็วเฉลี่ยในหน่วยไมล์/ชม. (ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือในกม./ชม.
  
• สัญลักษณ์นำหน้า (+/-)
  
• อุณหภูมิภายนอกในหน่วย °C หรือ °F
  
• ข้อมูลออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ (ดูที่ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์)
  

จอ LC ส่วน 2 :

• การเลือกโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์ ในกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติและระบบเกียร์ M แบบซีเควนเชียล (SMG) (สามารถให้รหัสได้ สำหรับในกรณีที่เป็นเกียร์ธรรมดา จะไม่มีการแสดงค่าเหล่านี้)
  

ไฟแสดงและไฟเตือน : แผงหน้าปัดมีไฟแสดงและไฟเตือน 24 ดวงดังนี้ (ตามสัญลักษณ์และตัวอักษร) :

• สัญญาณไฟเลี้ยวด้านซ้ายและขวา
  
• ไฟเตือนการชาร์จแบตเตอรี่
  
• ไฟสูง / ไฟกะพริบไฟหน้า
  
• ความดันน้ำมัน / ระดับน้ำมันต่ำ
  
• ระบบป้องกันการเบรคล็อคล้อ (ABS) ไม่ทำงาน
  
• ไฟเตือนเบรคทั่วไป
  
• ระบบควบคุมการเบรคแบบไดนามิก (DBC) ไม่ทำงาน
  
• ผ้าเบรคสึก
  
• ไฟตัดหมอก
  
• ไฟตัดหมอกด้านหลัง (รุ่นประเทศ)
  
• พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก (EPS)
  
• ตัวแสดงความผิดปกติของยาง (RPA) (ยางแบน) / ความผิดปกติของระบบ หรือในกรณีการกำหนดการทำงาน (เปลี่ยนยาง, เปลี่ยนความดันลมยาง)
  
• ถุงลมนิรภัย
  
• เข็มขัดนิรภัย (รุ่นประเทศ)
  
• เช็ค-คอนโทรล (หลอดไฟผิดปกติ)
  
• โปรแกรมฉุกเฉินของชุดเกียร์
  
• ชุดควบคุมปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EML)
  
• ชุดอิเล็กทรอนิกส์เครื่องยนต์ (รวมรุ่นประเทศด้วย)
  
• ระบบควบคุมเสถียรภาพโดยอัตโนมัติ (ASC) กำลังทำการปรับ หรือไม่ทำงาน
  
• ระบบควบคุมการทรงตัวแบบไดนามิก (DTC) กำลังทำการปรับ
  
• ระดับสารหล่อเย็นไม่เพียงพอ
  
• อุณหภูมิสูงของน้ำหล่อเย็น
  
• ฝาปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงเปิด (รุ่นประเทศ)
  
• น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง
  

เสียงเตือน/ข้อความเตือน : เสียงเตือน/ข้อความเตือนจะดังขึ้นควบคู่กับการติดสว่างของไฟแสดงและไฟเตือน (ยกเว้นสัญญาณไฟเลี้ยว) โดยดังออกทางลำโพง แบบเสียงดังครั้งเดียวหรือเสียงดังต่อเนื่อง :

คำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับอุปกรณ์

K บัส

K บัส (ชุดอิเล็กทรอนิกส์ตัวถัง) ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างชุดควบคุมของชุดอิเล็กทรอนิกส์ตัวถังและแผงหน้าปัด ข้อมูลจะแลกเปลี่ยนกันโดยเทเลแกรมข้อมูล

PT CAN บัส

PT CAN บัส (Powertrain CAN bus) ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างชุดอิเล็กทรอนิกส์เครื่องยนต์ ระบบควบคุมเสถียรภาพ (DSC) และแผงหน้าปัด ข้อมูลจะแลกเปลี่ยนกันโดยเทเลแกรมข้อมูล ในกรณีของชุดเกียร์อัตโนมัติ จะเชื่อมต่อกับชุดควบคุม EGS ด้วย

D บัส

D บัส (บัสการวิเคราะห์) ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแผงหน้าปัดและอุปกรณ์ทดสอบ ข้อมูลจะแลกเปลี่ยนกันโดยเทเลแกรมข้อมูล

สำหรับชุดควบคุมที่ไม่มีสายการวิเคราะห์แยกต่างหาก แต่ติดตั้งเข้ากับ K บัส แผงหน้าปัดจะทำหน้าที่เป็นฟังก์ชั่นเกตเวย์ เพื่อส่งผ่านเทเลแกรมของการวิเคราะห์

BYTEFLIGHT

ไบต์ไฟลท์ต่ออยู่กับ K บัสผ่านโมดูลข้อมูลและระบบความปลอดภัย (SIM) ซึ่งทำหน้าที่เป็นฟังก์ชั่นเกตเวย์ ข้อมูลจากแซทเทิลไลท์ SBSL และ SBSR ถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดผ่านจุดต่อบัสนี้

แผงหน้าปัด

ชุดควบคุม, วงจรสำหรับการประมวลผลสัญญาณ, แหล่งจ่ายไฟ, อุปกรณ์การทำงานและการแสดงผล จะรวมอยู่ในแผงหน้าปัด

แผงหน้าปัดมีฟังก์ชั่นหลักสำหรับอุปกรณ์อื่นที่ติดอยู่กับบัสที่ทำหน้าที่เป็นโมดูลฟังก์ชั่นเกตเวย์ และทำการต่อ PT CAN บัส (บัสกลไกส่งกำลัง) K บัส (บัสชุดอิเล็กทรอนิกส์ตัวถัง) D บัส (บัสการวิเคราะห์) และไบต์ไฟลท์ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปเทเลแกรมข้อมูล แผงหน้าปัดจะได้รับสัญญาณโดยตรงจากเซ็นเซอร์ด้วย

ข้อมูลรหัสและระดับตัวนับแบบถาวรจะบันทึกอยู่ในแผงหน้าปัด

ปุ่มสองปุ่ม S/R (ตั้งค่า/รีเซ็ตค่า) ที่ด้านซ้ายและปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกา (ด้านขวา) ใช้สำหรับการตั้งค่าต่อไปนี้ :

ปุ่ม S/R

• การรีเซ็ตตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยว
  
• เรียกใช้งานเมนูรีเซ็ต SIA
  
• ตั้งเวลา
  
• ใช้งานฟังก์ชั่นทดสอบ
  

ปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกา (ด้านขวา) :

• เรียกโหมดตั้งเวลา
  
• เรียกวันที่สำหรับการเข้ารับบริการ SIA ระหว่างการแสดงระยะทางก่อนการเข้ารับบริการครั้งถัดไป
  

คันสวิตช์ที่คอพวงมาลัย (LSS)

ปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS) สามารถใช้สำหรับกระตุ้นการประเมินผลของออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ และใช้สำหรับเลือกการแสดงนาฬิกาแบบดิจิตอลหรืออุณหภูมิภายนอกได้ด้วย

ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ)

ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) ใช้สำหรับสั่งการทำงานของไฟต่างๆ ในแผงหน้าปัด ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) จะทำหน้าที่ควบคุมความสว่างของไฟแสงสว่างของหน้าปัดเกจวัด, เข็มชี้ และส่วนแสดงผล ข้อมูลจะถูกส่งโดยเทเลแกรมข้อมูลผ่าน K บัสไปยังแผงหน้าปัด

ฟังก์ชั่นหลัก

สแตนด์บาย

เมื่อสวิตช์กุญแจอยู่ในสถานะเทอร์มินอล 30 (เทอร์มินอล R และเทอร์มินอล 15 OFF) แผงหน้าปัดจะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย ชิ้นส่วนของระบบที่ไม่จำเป็นจะถูกสั่งให้หยุดทำงานเพื่อลดความสิ้นเปลืองของการใช้ไฟ (โหมดสแตนด์บาย) โมดูลนาฬิกาสำหรับเวลาจริง เวลา SIA และการวัดอุณหภูมิภายนอกเป็นระยะๆ จะยังคงทำงานอยู่ สามารถสั่งหยุดการทำงานได้โดย K บัสและปุ่ม S/R ในกรณีที่สวิตช์กุญแจอยู่ที่ตำแหน่งเทอร์มินอล 30 K บัส และส่วนแสดงผลต่างๆ จะไม่ทำงาน

สำหรับการแสดงระยะเดินทางและเวลาเดินทาง สามารถเรียกแผงหน้าปัดให้ทำงานได้โดยกดปุ่ม S/R หลังจากนั้นประมาณ 25 วินาที แผงหน้าปัดจะกลับสู่โหมดโหมดสแตนด์บาย ในระหว่างการแสดง บัสจะไม่ทำงาน

เมื่อเทอร์มินอล 15 ON จะมีการแสดงเกียร์, ไฟแสดงเช็ค-คอนโทรล และเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำหล่อเย็น, ผ้าเบรค เป็นต้น การติดต่อกับเครื่องยนต์, ชุดเกียร์ และชุดควบคุมแชสซีจะผ่านทาง PT CAN บัส การติดต่อของแผงหน้าปัดทั้งหมดจะทำงาน

สถานะของเทอร์มินอล 30h (มอเตอร์ตำแหน่งสตาร์ท 50) จะได้รับการตรวจจับโดยอินพุตแบบดิจิตอลและระบบสามารถนำไปใช้ได้ ในระหว่างการสตาร์ท จะจำกัดการประเมินผลสัญญาณอินพุต ถ้าเทอร์มินอล 30 ON จะไม่มีการประเมินการแปลงสัญญาณ A/D นอกจากนี้จะไม่ใช้ข้อมูลอินพุตแบบดิจิตอล เช่น ข้อมูลจากปุ่มต่างๆ อีกด้วย

ฟังก์ชั่นแรงดันไฟเกิน / ไฟตก

แหล่งจ่ายไฟของแผงหน้าปัดมาจากตัวควบคุมสวิตช์ ตัวควบคุมสวิตช์จะชดเชยการเพิ่มขึ้นและลดลงของแรงดันไฟฟ้าในระบบไฟฟ้ารถยนต์ในช่วงตั้งแต่ 9 โวลท์ ถึง 16 โวลท์

ไฟตก : แรงดันไฟฟ้าของรถยนต์จะวัดจากเทอร์มินอล 30 ทุกๆ 30 มิลลิวินาที เมื่อวัดแรงดันไฟฟ้าลดลงจนถึงประมาณ 7.5 โวลท์ จะได้รับการประเมินเป็น 'ไฟตก' ในสถานะดังกล่าว จะไม่สามารถเข้าไปอ่านและเขียนใน EEPROM ได้ ก่อนที่จะทำการการรีเซ็ตไฟตก แผงหน้าปัดจะเริ่มสำรองข้อมูล

ไฟเกิน : สถานะ 'ไฟเกิน' เกิดขึ้นเมื่อแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า16 โวลท์ ไมโครคอนโทรลเลอร์จะเริ่มขั้นตอนการสำรองข้อมูลฮาร์ดแวร์ ข้อมูลต่างๆ (เช่น ระยะเดินทาง, ข้อมูล SIA, เวลา และวันที่ เป็นต้น) รวมทั้งสถานะต่างๆ จะไม่หายไป เนื่องจากได้บันทึกข้อมูลไว้แล้วในช่วงสภาวะปกติ ไฟแสดงและไฟเตือนจะดับหรือสลัวลงในระหว่างที่มีสภาวะไฟเกิน

การติดต่อเพื่อสำรองข้อมูล : ชุดควบคุม DSC - ชุดควบคุมของแผงหน้าปัด

ชุดควบคุมของระบบควบคุมเสถียรภาพ (DSC) และแผงหน้าปัดจะติดต่อกันผ่าน PT CAN บัส นอกจากนี้ ชุดควบคุมทั้งสองนี้ต่อเข้าด้วยกันได้โดยใช้สายเคเบิลเพื่อให้แน่ใจว่ามีการส่งผ่านข้อมูลสำรอง

ที่สายเคเบิลเส้นหนึ่ง สัญญาณระยะเดินทางที่ประมวลผลโดยชุดควบคุม DSC จะถูกส่งจากเซ็นเซอร์ความเร็ว ABS ด้านหลังซ้าย สัญญาณนี้ใช้สำหรับคำนวณระยะเดินทางและความเร็วในการเดินทาง

ที่สายเคเบิลอีกเส้นหนึ่ง จะมีการส่งผ่านสัญญาณสำหรับการสั่งงานไฟเตือน ABS สัญญาณนี้จะปรากฏขึ้นในกรณีที่เกิดความผิดปกติในระบบควบคุมการเบรคและ PT CAN บัส หากตรวจพบว่าไม่มีการส่งสัญญาณมาที่สายเคเบิลนี้ จะมีการตรวจพบสายขาดในปลั๊กต่อที่ชุดควบคุม DSC ด้วย (ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย)

ข้อมูลสำรอง

ฟังก์ชั่นข้อมูลสำรองได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

การแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA)

ฟังก์ชันการแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA) ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ตัวอ่านข้อมูลกุญแจและ SAM 1

ฟังก์ชั่นตัวอ่านกุญแจและ SAM 1 ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ฟังก์ชั่นเกตเวย์

แผงหน้าปัดเป็นการติดต่อระหว่าง K บัส PT CAN บัสและบัสการวิเคราะห์ แผงหน้าปัดจะติดต่อกับชุดควบคุมอื่นๆ ในรถยนต์ผ่าน K บัส (สายไฟเส้นเดียว) และ PT CAN บัส (สายไฟเส้นคู่) จากนั้นแผงหน้าปัดจะส่ง/รับข้อความไปยัง/จากอุปกรณ์ที่ต่ออยู่กับบัส การติดต่อกับเครื่องทดสอบการวิเคราะห์ทำผ่านบัสการวิเคราะห์ (สายไฟเส้นเดียว)

แผงหน้าปัดสั่งงานฟังก์ชั่นเกตเวย์ต่อไปนี้จากการเชื่อมต่อบัส :

• การวิเคราะห์องค์ประกอบเทเลแกรม (DS2) <=> K บัส
  
• การวิเคราะห์องค์ประกอบเทเลแกรม (KWP2000*) <=> K บัส
  
• องค์ประกอบเทเลแกรม PT CAN บัส <=> K บัส
  

สำหรับชุดควบคุมที่ไม่มีอินเตอร์เฟสการวิเคราะห์ แผงหน้าปัดจะยังคงติดต่อกับเครื่องทดสอบการวิเคราะห์ โดยแผงหน้าปัดจะใช้เทเลแกรม K บัสของชุดควบคุมเหล่านี้โดยผ่านทางบัสการวิเคราะห์

ตัวอย่าง (เฉพาะรุ่นประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) : ในกรณีที่เป็นฟังก์ชั่นของการแสดงแรงเบรคสองระดับ ชุดควบคุม DSC (PT CAN บัส) จะส่งข้อมูล 'การลดอัตราเร่งตามแนวยาว' (การเบรค) ไปยังแผงหน้าปัด ถ้าเกินค่าขีดจำกัดที่ให้รหัสไว้ในแผงหน้าปัด ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) จะรับคำแนะนำผ่าน K บัส เพื่อสั่งงานไฟเบรคที่ระดับ 1 หรือ 2

ลำดับการส่งผ่านข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อบัสเป็นดังนี้ :

---> DSC === PT CAN === แผงหน้าปัด ---- K บัส ---- LSZ --->

หมายเหตุ : การวิเคราะห์ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ความสว่างและการปรับความสว่าง

ความสว่าง : แผงหน้าปัดจะติดสว่างเมื่อเทอร์มินอล R ON ในการเปิดไฟดังกล่าว ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) จะส่งสัญญาณ 'เปิดไฟ' ผ่าน K บัสไปยังแผงหน้าปัด และสำหรับแรงดันไฟจ่ายจะมาจากชุดสวิตช์ไฟส่วนกลางในแผงหน้าปัด

จอแสดงความเร็วรถและความเร็วรอบเครื่องจะสว่างโดยไฟส่องที่แยกกัน (ไฟจะส่องออกมาระหว่างเกจวัดกับหน้าปัดเกจวัด) จอ LC ส่วน 1 (ในมาตรวัดความเร็ว) และ 2 (การแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อน และเกียร์) อยู่ในส่วนของไฟสีส้ม

ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) จะควบคุมความสว่างของไฟส่องหน้าปัดเกจวัด, เข็มชี้ และส่วนแสดงผล (ตัวปรับความสว่างอุปกรณ์) เมื่อต้องการควบคุมความสว่างของอุปกรณ์ ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) จะประเมินสัญญาณจากปุ่มปรับความสว่าง (ปุ่มหมุน) และโฟโตเซลที่ชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) เพื่อกำหนดความสว่างโดยรอบ สัญญาณปรับความสว่างจะถูกส่งผ่าน K บัส

มาตรวัดความเร็ว

ความเร็วในการเดินทางรับมาจากสัญญาณเดินทางในขณะนั้นๆ จากชุดควบคุม ABS เมื่อเทอร์มินอล 15 ON ความเร็วในการเดินทางจะแสดงในแบบอนาล็อกในเกจวัดด้านซ้าย โดยใช้สเต็ปมอเตอร์ในการขับเข็มให้เคลื่อนที่ สำหรับสเกลที่ใช้จะขึ้นอยู่กับรุ่นประเทศ

มาตรวัดความเร็วรอบ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเร็วรอบเครื่องในขณะนั้น จะถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดเมื่อเทอร์มินอล 15 ON โดยชุดอิเล็กทรอนิกส์เครื่องยนต์ผ่าน PT CAN บัส

ความเร็วรอบเครื่องจะแสดงในแบบอนาล็อกที่เกจวัดด้านขวา โดยจะแสดงในหน่วยรอบต่อนาที (rpm) ส่วนสีแดงเป็นสัญญาณเตือนว่าความเร็วรถอยู่ในช่วงเกินขีดจำกัดความเร็ว โดยใช้สเต็ปมอเตอร์ในการขับเข็มให้เคลื่อนที่

เกจอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น

ข้อมูลอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นจะถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดเมื่อเทอร์มินอล 15 ON โดยชุดอิเล็กทรอนิกส์เครื่องยนต์ผ่าน PT CAN บัส ข้อมูลนี้จะแสดงในแบบอนาล็อกในเกจวัดด้านขวามือ ที่อยู่ในส่วนแสดงความเร็วรอบ โดยใช้สเต็ปมอเตอร์ในการขับเข็มให้เคลื่อนที่ ในกรณีที่มีอุณหภูมิสูง ตำแหน่งสูงที่สุดที่เข็มชี้จะเคลื่อนไปคือตำแหน่งกึ่งกลางของโซนสีแดง โซนเตือนจะมีไฟแสดงปรากฏขึ้นด้วย และจะมีมาตรการทางวงจรไฟฟ้าในการป้องกันไม่ให้เข็มเคลื่อนที่ไปในโซนเตือนสีแดงหลังจากการสตาร์ทขณะเครื่องร้อน

การแสดงภาวะอุณหภูมิสูงเกินสามารถทำได้โดยชุดอิเล็กทรอนิกส์เครื่องยนต์ผ่าน PT CAN บัส โดยไม่ขึ้นกับตำแหน่งของเกจวัด

เกจน้ำมันเชื้อเพลิง

เซ็นเซอร์ถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านซ้าย (L) และขวา (R) รับไฟจ่าย 5 โวลท์ จากตัวควบคุมการปิดเปิดในแผงหน้าปัด สัญญาณจากเซ็นเซอร์ถังน้ำมันทั้งสองจะถูกอ่านโดยแยกกัน ปริมาณน้ำมันในถังน้ำมันจะถูกคำนวณในแผงหน้าปัดจากสัญญาณที่ส่งมาจากเซ็นเซอร์ถังน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณการปรับอื่นๆ อัตราน้ำมันเชื้อเพลิงที่คำนวณได้จะแสดงขึ้นในแบบอนาล็อกที่เกจวัดขนาดเล็กด้านซ้ายมือในตัวนับรอบ โดยใช้สเต็ปมอเตอร์ในการขับเข็มให้เคลื่อนที่

เมื่อถึงขีดจำกัดน้ำมันสำรองตามการให้รหัสของโรงงานผลิต (มาตรฐาน = 8 ลิตร) ไฟถังน้ำมันสำรองจะติดสว่าง โดยมีซอฟท์แวร์ฮิสเตอรีซิสช่วยป้องกันไม่ให้ไฟติดๆ ดับๆ

ข้อมูลน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่จะถูกส่งเป็นเทเลแกรมผ่าน PT CAN บัส, K บัส และบัสการวิเคราะห์สำหรับชุดควบคุมและการเข้ารับบริการ

การแสดงระยะเดินทาง

เมื่อเทอร์มินอล 15 ON ชุดควบคุม ABS จะส่งสัญญาณระยะเดินทางไปที่ชุดควบคุมของแผงหน้าปัด ระยะเดินทางจะเพิ่มขึ้นทีละ 10 ม.จากสัญญาณระยะเดินทาง ค่าระยะเดินทางจะถูกรวมในหน่วยความจำสำหรับระยะเดินทางรวมและระยะเดินทางต่อเที่ยว (GWSZ และ TWSZ) ค่าระยะเดินทางทั้งสองค่าจะบันทึกไว้โดยอุปกรณ์บันทึกค่าระยะทาง (GWSZ)

นอกจากนั้น จะมีการสำรองข้อมูลระยะเดินทาง และข้อมูล SIA ไว้ในชุดปิดเปิดไฟส่วนกลาง (LSZ) ทุกๆ 100 กิโลเมตรด้วย เพื่อนำไปใช้ในกรณีที่อาจจะต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ ในขณะเดียวกัน ค่ากิโลเมตรและข้อมูล SIA จะถูกส่งผ่าน K บัส ไปยังระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EWS) (ปุ่มยืนยันการใช้งานของลูกค้าที่ให้ไว้พร้อมข้อมูลจาก EWS (ระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่อง)

ระยะเดินทางรวมจะถูกแปลงเป็นกิโลเมตรหรือไมล์ตามเกณฑ์ในแต่ละประเทศ และจะแสดงเป็นตัวเลขหกหลัก การแสดงผลในจอ LC จะปรากฏขึ้นเมื่อเทอร์มินอล R ON หรือเปิดเทอร์มินอล 30 เป็นเวลา 25 วินาทีหลังจากกดปุ่ม S/R

มิเตอร์ระยะการเดินทางต่อเที่ยวจะถูกแปลงเป็นกิโลเมตรหรือไมล์ ตามเกณฑ์ในแต่ละประเทศเช่นกัน โดยจะแสดงเป็นตัวเลขสี่หลัก การแสดงผลในจอ LC จะปรากฏขึ้นเมื่อเทอร์มินอล R ON จนถึงหนึ่งในสิบของกิโลเมตรหรือหนึ่งในสิบของไมล์

ตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยวและระยะเดินทางรวมสามารถทำงานแยกกันได้เมื่อเทอร์มินอล R ON ระยะเดินทางทั้งสองจะแสดงขึ้นพร้อมกันเสมอ สำหรับตัวนับระยะเดินทางต่อเที่ยว จะสามารถรีเซ็ตให้เป็นศูนย์กี่ครั้งก็ได้ โดยใช้ปุ่มรีเซ็ตระยะเดินทางต่อเที่ยว เมื่อเทอร์มินอล R ON

นาฬิกาดิจิตอล

ถ้าเทอร์มินอล R ON การแสดงผลแรกที่ปรากฏขึ้นคือ 'กำหนดการเข้ารับบริการ (SIA)' ในจอแสดงผล 1 เป็นเวลา 5 วินาที ในระหว่างนี้ การใช้งานปุ่มที่ปลายคันสวิตช์ไฟเลี้ยวจะไม่มีผลใดๆ จากนั้นเวลาจะปรากฏขึ้น สามารถปรับเวลาได้โดยใช้ปุ่ม S/R และปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกาที่แผงหน้าปัดหรือปรับผ่านออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ นาฬิกาที่ไม่ได้ตั้งค่าไว้ เช่น หลังจากไม่มีการจ่ายไฟที่เทอร์มินอล 30 จะแสดงขึ้นเป็นเครื่องหมายขีดพร้อมเครื่องหมายจุดคู่ (เครื่องหมาย Colon) กะพริบ

เมื่อสวิตช์กุญแจอยู่ในตำแหน่งเทอร์มินอล R ข้อมูลเวลาจะถูกส่งไปที่ K บัสเพื่อแสดงในวิทยุมัลติอินฟอร์เมชั่น (MIR) หรือจอแสดงข้อมูลส่วนกลาง (CID)

สามารถแสดงเวลาในโหมด 12 ชั่วโมงหรือ 24 ชั่วโมงได้โดยขึ้นอยู่กับการให้รหัส สามารถเปลี่ยนสลับไปมาได้โดยกดปุ่มที่ปลายคันสวิตช์ไฟเลี้ยวค้างไว้ (> 5 วินาที) การตั้งค่า 12 ชั่วโมงจะแสดงขึ้นเมื่อกด AM และ PM

การตั้งค่านาฬิกาด้วยปุ่ม S/R และสัญลักษณ์นาฬิกา :

เมื่อต้องการเรียกโหมดการตั้งค่า :

• กดปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกาค้างไว้มากกว่า 5 วินาที เครื่องหมายจุดคู่จะเริ่มกะพริบและค่านาทีจะหายไป
  

เมื่อต้องการตั้งค่าชั่วโมง :

• กดปุ่ม S/R เพื่อตั้งค่าชั่วโมง :
  กดสั้นๆ : เพิ่มทีละหนึ่งชั่วโมง
  กดค้าง : เพิ่มทีละ 2 ชั่วโมง
  

เมื่อต้องการตั้งค่านาที :

• กดปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกา สลับจากชั่วโมงเป็นนาที
  กดสั้นๆ : เพิ่มทีละหนึ่งนาที
  กดค้าง : เพิ่มทีละ 2 นาที
  ถ้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนค่านาที (เช่น การตั้งเวลาในฤดูร้อน/ฤดูหนาว) กดปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกาอีกครั้ง
  
• กดสั้นๆ : เพิ่มทีละหนึ่งนาที
  กดค้าง : เพิ่มทีละ 2 นาที
  

เมื่อต้องการรีสตาร์ทนาฬิกาใหม่ :

• กดปุ่มสัญลักษณ์นาฬิกา
  ตัวนับที่สองจะเริ่มต้นใหม่ก็ต่อเมื่อได้ทำการเปลี่ยนค่านาทีก่อนหน้านี้
  

การปรับนาฬิกาผ่านออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ :

ถ้ามีการเปลี่ยนค่าหน่วยนาที ค่าวินาทีจะถูกปรับไปที่ศูนย์

จุดปรับ

จุดปรับจะแสดงขึ้นที่ด้านซ้ายของตัวบันทึกระยะเดินทางต่อเที่ยวที่จอ LC ส่วน 1 และจะเปิดทำงานเมื่อมีการเปรียบเทียบว่า หมายเลขตัวถังรถที่บันทึกในแผงหน้าปัดและในชุดสวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ) (การเก็บข้อมูลสำรอง) ไม่ตรงกัน สาเหตุหนึ่งมาจากการเปลี่ยนชุดควบคุมต่อไปนี้

• แผงหน้าปัด
  
• สวิตช์ไฟส่วนกลาง (LSZ)
  

หมายเหตุ : ในการปรับหมายเลขตัวถังรถ (การปิดสวิตช์จุดปรับ) และการเปลี่ยนชุดควบคุม กรุณาดูที่คำอธิบายลักษณะการทำงานสำหรับแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ไฟแสดงเช็ค-คอนโทรล

ไฟแสดงเช็ค-คอนโทรล (ความผิดปกติของหลอดไฟ) ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ไฟแสดงและไฟเตือน

ไฟแสดงและไฟเตือน (สัญลักษณ์หรือตัวอักษร) ติดสว่างโดยไฟ LED ที่บัดกรีติดกับแผงวงจร ไฟ LED บางตัวได้รับการออกแบบให้มีสองสี

เสียงเตือนสำหรับเข็มขัดนิรภัย (ตัวเตือนเข็มขัดนิรภัย)

เสียงเตือนเข็มขัดนิรภัยสำหรับ EU (สหรัฐอเมริกา : ตัวเตือนเข็มขัดนิรภัย) สำหรับด้านคนขับและด้านผู้โดยสาร ในปัจจุบัน สามารถสั่งให้มีเสียงเตือนเข็มขัดนิรภัยได้โดยติดตั้งหัวล็อคเข็มขัดนิรภัยที่ใช้ในรถรุ่นประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การตรวจจับการใช้ที่นั่ง (SBE) จะตรวจจับว่ามีการใช้ที่นั่งผู้โดยสารหรือไม่ หลังจากที่ออกรถไปแล้วเป็นระยะทาง 100 เมตร หรือในระหว่างการขับขี่ แผงหน้าปัดจะสั่งให้เสียงเตือนทำงานเป็นเวลาประมาณ 90 วินาที

ชุดควบคุมถุงลมนิรภัยจะส่งข้อมูลหัวเข็มขัดนิรภัยผ่าน K บัส ไปยังแผงหน้าปัด

การตรวจสอบก่อนการขับขี่

การตรวจสอบก่อนการขับขี่ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์

ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ในแผงหน้าปัดสามารถให้รหัสได้ในสองรุ่น

ใน ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นปกติเฉพาะอุณหภูมิภายนอกเท่านั้นที่แสดงขึ้นที่จอ LC ส่วน 1 ส่วนเวลาจะแสดงขึ้นที่จอวิทยุ อย่างไรก็ตาม การตั้งค่านาฬิกาจะสามารถทำได้โดยใช้ปุ่ม S/T ที่แผงหน้าปัด

ใน ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นพิเศษ สามารถเรียกฟังก์ชั่นแต่ละฟังก์ชั่นได้ตามลำดับที่ให้รหัสไว้ ในกรณีนี้ กดปุ่มที่ปลายคันสวิตช์ไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย ฟังก์ชั่นจะแสดงอย่างต่อเนื่องบนจอ LC ที่การแสดงผลส่วน 1 หรือที่วิทยุมัลติอินฟอร์เมชั่น (MIR) หรือที่จอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง (CID)

• เวลา
  
• อุณหภูมิภายนอก
  
• ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 1
  
• ระยะทางที่วิ่งได้
  
• ความเร็วเฉลี่ย
  
• การเตือนความเร็ว (การให้รหัสของแต่ละประเทศ)
  
• ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 2
  
• ระยะทางก่อนถึงทางแยก = ระยะทางก่อนถึงทางแยกถัดไป (ใช้ร่วมกับระบบนำทางเท่านั้น)
  
• วันที่ (เฉพาะที่ใช้ร่วมกับวิทยุมัลติอินฟอร์เมชั่น (MIR) หรือระบบนำทางที่จอวิทยุหรือจอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง (CID) เท่านั้น)
  

หน่วยของฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่เลือกไว้จะแสดงขึ้นที่ส่วนแสดงผล LC (l/100 กม., กม./ลิตร, ไมล์/แกลลอน US หรือ ไมล์/แกลลอน UK) โดยขึ้นอยู่กับการให้รหัส

ในกรณีที่รถยนต์ไม่มีวิทยุติดตั้งอยู่ จะไม่มีการแสดงอุณหภูมิภายนอก ในรถยนต์ที่ไม่มีวิทยุจะมีเฉพาะเวลาเแสดงขึ้นที่บรรทัดสุดท้ายของจอ LC 1

ลำดับของฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่แสดงในจอ LC 1 จะเหมือนกันเสมอ

โดยจะมีออปชั่นการแสดงเวลาและอุณหภูมิภายนอกร่วมกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์

หมายเหตุ : สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีอุปกรณ์พิเศษสำหรับวิทยุ จะไม่มีการแสดงอุณหภูมิภายนอกปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัด จะมีการแสดงเฉพาะเวลาที่บรรทัดสุดท้ายของจอ LC 1

ถ้าการแสดงอุณหภูมิภายนอกกะพริบ (อุณหภูมิ <= 3°C) ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์แต่ละฟังก์ชั่นที่จอแสดงผลจะถูกซ่อนอยู่

ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์แสดงขึ้นในจอ LC ส่วน 1

เมื่อเทอร์มินอล R ON ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์จะแสดงฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่แสดงขึ้นครั้งสุดท้าย การแสดงอื่นๆ สามารถเรียกได้โดยกดปุ่ม (< 2 วินาที) ที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย เมื่อกดค้างไว้ (> 2 วินาที) จะทำให้ค่าที่จะปรับหรือการรีเซ็ตฟังก์ชั่นคอมพิวเตอร์ทำงาน

ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ 'ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย' และ 'ความเร็วเฉลี่ย' สามารถรีเซ็ตได้โดยกดปุ่ม (< 2 วินาที) ที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS) การคำนวณค่าเฉลี่ยสำหรับการแสดงผลทั้งสองจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

เมื่อถึงขีดจำกัดการเตือน (หรือการเตือนความเร็ว, รุ่นประเทศ) ค่าความเร็วรถจะแสดงที่จอ LC กะพริบ 1 ครั้ง และเสียงเตือนจะดังขึ้น

ระยะทางก่อนถึงทางแยก

ระยะทางก่อนถึงทางแยกถัดไปจะถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดโดยคอมพิวเตอร์ระบบนำทางผ่าน K บัส การแสดงระยะทางที่เหลือเป็นการแสดงเป็นระยะๆ บนจอ LC 1

ถ้ารถยนต์กำลังขับเข้าหาทางแยก ในช่วงระยะทางตั้งแต่ 400 เมตรถึง 100 เมตร การแสดงระยะทางจะเปลี่ยนแปลงเมื่อครบ 100 เมตร

ที่ 100 เมตร การแสดงระยะทางจะเปลี่ยนแปลงเมื่อครบ 10 เมตร

หมายเหตุ : ที่ความเร็วสูงขึ้น เช่น บนทางด่วน ข้อมูลระยะทางจะแสดง 1000 ม. ก่อนถึงทางแยก (ทางออกทางด่วน)

หลังจากผ่านทางแยกแล้ว ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่แสดงก่อนหน้านี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์จะแสดงในวิทยุมัลติอินฟอร์เมชั่น (MIR)

สำหรับรถยนต์ที่มีวิทยุมัลติอินฟอร์เมชั่น (MIR) ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์จะแสดงขึ้นที่จอวิทยุด้วย นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ 'ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 2' จะแสดงขึ้น สามารถเลื่อนรายการขึ้นลงได้โดยใช้ปุ่มกด/หมุน และยังสามารถแสดงวันที่ได้อีกด้วย

การตั้งค่าที่เกิดขึ้นโดยใช้ปุ่มกด/หมุน เช่น หน่วย หรือการรีเซ็ต จะถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดโดยเทเลแกรมข้อมูล ซึ่งจะใช้ค่าที่ส่งนี้จนกว่าจะมีการอัพเดท

วันที่จะถูกดำเนินการในแผงหน้าปัดและแสดงขึ้นที่จอวิทยุ

หมายเหตุ : หลังจากมีการหยุดจ่ายไฟ (เช่น เปลี่ยนแบตเตอรี่) และกลับมามีไฟเหมือนเดิม ปีปัจจุบันที่บันทึกไว้ในแผงหน้าปัดจะแสดงขึ้น

ออนบอร์ดคอมพิวเตอร์จะแสดงในระบบนำทางจอแสดงข้อมูลส่วนกลาง (CID)

ในรถยนต์ที่มีระบบนำทางรุ่นพิเศษ ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์จะแสดงในจอแสดงข้อมูลส่วนกลาง (CDI) ข้อมูลระบบนำทาง 'ระยะทางจนถึงทางแยก' แสดงขึ้นควบคู่กันในแผงหน้าปัด

การตั้งค่าที่เกิดขึ้นโดยใช้ปุ่มกด/หมุนที่แผงควบคุมของระบบนำทาง เช่น หน่วยหรือรีเซ็ต จะถูกส่งไปยังแผงหน้าปัดโดยเทเลแกรมข้อมูล ซึ่งจะใช้ค่าที่ส่งนี้จนกว่าจะมีการอัพเดท

สามารถตั้งค่าวันที่ได้โดยใช้ฟังก์ชั่น ”การตั้งค่า” ที่จอแสดงข้อมูลส่วนกลาง (CDI) อย่างไรก็ตาม วันที่จะถูกดำเนินการและแสดงขึ้นที่แผงหน้าปัด (ไม่มีแถบสถานะในจอแสดงข้อมูลส่วนกลาง (CDI))

ส่วนแสดงอุณหภูมิภายนอก

อุณหภูมิภายนอกถูกบันทึกโดยใช้เซ็นเซอร์ (ตัวต้านทาน NTC) ในกันชน เซ็นเซอร์ต่ออยู่กับแหล่งจ่ายไฟของแผงหน้าปัด ค่าแรงดันไฟฟ้าอนาล็อกที่มาจากเซ็นเซอร์จะถูกแปลงเป็นข้อมูลดิจิตอลที่แผงหน้าปัด จากนั้นจะมีการประมวลผลเพื่อแสดงค่าโดยขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเครื่องยนต์และความเร็วในการเดินทาง

เมื่อแสดงอุณหภูมิภายนอก สามารถเปลี่ยนหน่วยอุณหภูมิได้ กดปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS) ค้างไว้ (> 5 วินาที) จะเปลี่ยนหน่วยจาก °C ไปที่ °F และสลับกัน

เมื่อเทอร์มินอล R ON จะสามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้โดยใช้ปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS) ลำดับการแสดงผลเป็นดังนี้ : เวลาของวัน, อุณหภูมิภายนอก, ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย, ช่วงความเร็วคงที่, ความเร็วรถโดยเฉลี่ย แต่ละครั้งที่ปล่อยปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS) จะเป็นการเปลี่บยไปที่ฟังก์ชั่นถัดไป

ถ้าอุณหภูมิภายนอกต่ำกว่า +3°C เสียงเตือนอุณหภูมิภายนอกจะดังขึ้น อุณหภูมิภายนอกจะแสดงกะพริบประมาณสองสามวินาที จะสามารถยกเลิกไฟเตือนอุณหภูมิภายนอกได้โดยกดปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (< 2 วินาที) หลังจากยกเลิก ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่แสดงก่อนหน้านี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง

การแสดงอุณหภูมิภายนอกจะยังคงแสดงอยู่หลังจากการเตือนอุณหภูมิภายนอก หรือการแสดงเลื่อนกลับไปที่ฟังก์ชั่นออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ที่แสดงครั้งสุดท้าย (เช่น เวลา) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการให้รหัส

ในระหว่างการแสดง SIA จะไม่มีการแสดงการเตือนอุณหภูมิภายนอก

เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า -5°C เกจวัดอุณหภูมิจะไม่กะพริบเมื่อเทอร์มินอล R ON การกะพริบจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากดำเนินการออปชั่นการแสดงผลโดยใช้ปุ่มที่ปลายคันสวิตช์สัญญาณไฟเลี้ยวที่คอพวงมาลัย (LSS)

การเตือนอุณหภูมิภายนอกถัดไปจะเกิดขึ้นหลังจากเกิน +6°C และตกลงต่ำกว่า +3°C อีกครั้งหรือเทอร์มินอล R เปิดทำงานอีกครั้ง

หน่วยความจำของรถยนต์ และกุญแจ

ฟังก์ชั่นหน่วยความจำรถและกุญแจได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

การแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์

ส่วนจอ LC 2 สำหรับการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์ จะอยู่ต่ำกว่าไฟแสดงและไฟเตือนระหว่างอุปกรณ์วัดแบบเข็มขนาดใหญ่ ในกรณีที่เป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติและระบบเกียร์ M แบบซีเควนเชียล (SMG) เกียร์ที่เข้าและโปรแกรมเกียร์ที่เลือกไว้จะแสดงขึ้นที่จอ LC 2 ในกรณีที่เกิดความผิดปกติ สัญลักษณ์โปรแกรมฉุกเฉินชุดเกียร์จะแสดงขึ้นในไฟแสดงที่แยกต่างหาก สำหรับฟังก์ชั่นการแสดงผลนี้สามารถให้รหัสได้ ฟังก์ชั่นที่ให้รหัสไว้ (ไม่มี, อัตโนมัติ, SMG) จะแสดงเมื่อเทอร์มินอล 15 ON

การแสดงผล SMG สามารถแสดงผลได้หลังจากเทอร์มินอล 15 R OFF ตราบใดที่ชุดควบคุม SMG ยังส่งข้อมูลอยู่ นอกจากนี้ SMG สามารถกะพริบการแสดงผลและสั่งเสียงเตือนให้ทำงานได้ โดยผ่าน PT CAN บัส

ในกรณีของเกียร์อัตโนมัติและ SMG ข้อมูลชุดเกียร์จะถูกส่งจากชุดควบคุมเกียร์ผ่าน PT CAN บัส ข้อมูลที่ได้รับจากแผงหน้าปัดจะแสดงขึ้นเมื่อเทอร์มินอล 15 ON ความผิดปกติของชุดเกียร์หรือความผิดปกติของการติดต่อ PT CAN จะกระตุ้นการแสดงโปรแกรมฉุกเฉินของชุดเกียร์พร้อมไฟแสดงที่แยกกัน สำหรับฟังก์ชั่นนี้สามารถให้รหัสได้ ถ้าไม่สามารถส่งข้อความได้ จะมีการบันทึกหน่วยความจำรหัสความผิดปกติไว้ในแผงหน้าปัด

ในรถยนต์เกียร์ธรรมดา สัญญาณเกียร์ถอยหลังจะอ่านผ่านขาคอนเนคเตอร์ เพื่อให้ส่งสัญญาณถอยหลังออกไปได้ผ่าน K บัสแม้ในกรณีที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา จะมีอินพุตแบบดิจิตอลสำหรับสัญญาณนี้บนแผงหน้าปัด ถ้าได้ให้รหัสแผงหน้าปัดสำหรับระบบเกียร์ธรรมดา แผงหน้าปัดจะอ่านข้อมูลผ่านทางอินพุต จะมีการให้สถานะปัจจุบัน ”เข้าเกียร์ถอยหลัง” ผ่าน K บัสไปยังอุปกรณ์อื่นที่เชื่อมกับบัส เช่น หน่วยความจำกระจกเงา, ระบบควบคุมระยะการจอด (PDC) เป็นต้น

หมายเหตุ ในกรณีของ SMG นั้น ตำแหน่งคันเกียร์ N จะกะพริบหลังจากจอดรถ การกะพริบเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ารถยนต์อาจพลิกคว่ำได้

ข้อสังเกตสำหรับฝ่ายบริการ :

ฟังก์ชั่นทดสอบ : ฟังก์ชั่นทดสอบจะเป็นตัวตรวจสอบการให้รหัส และจะทำการตรวจสอบค้นหาสาเหตุและแก้ปัญหา โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องทดสอบการวิเคราะห์ โดยได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม

รุ่นเฉพาะประเทศ

• รถรุ่นประเทศ EU พวงมาลัยซ้ายสำหรับเกียร์อัตโนมัติหรือ SMG : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 260 กม./ชม. โดยมีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์
  
• รถรุ่นประเทศ EU พวงมาลัยซ้ายสำหรับเกียร์ธรรมดา : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 260 กม./ชม. โดยไม่มีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์
  
• รถรุ่นประเทศ EU พวงมาลัยขวาสำหรับเกียร์อัตโนมัติหรือ SMG : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 160 ไมล์/ชม. ที่รอบนอกและ 260 กม./ชม. ที่วงภายในวงที่สอง โดยมีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์
  
• รถรุ่นประเทศ EU พวงมาลัยขวาสำหรับเกียร์ธรรมดา : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 160 ไมล์/ชม. ที่รอบนอกและ 260 กม./ชม. ที่วงภายในวงที่สอง โดยไม่มีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์
  
• รุ่นประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับเกียร์อัตโนมัติหรือ SMG : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 160 ไมล์/ชม. ที่รอบนอก และ 260 กม./ชม. ที่วงภายในวงที่สอง โดยมีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อนและเกียร์ที่ใช้ และไฟแสดงและไฟควบคุมแตกต่างกัน (รุ่นประเทศ)
  
• รุ่นประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับเกียร์ธรรมดา : ค่าสูงสุดของมาตรวัดความเร็ว เท่ากับ 160 ไมล์/ชม. ที่รอบนอกและ 260 กม./ชม. ที่วงภายในวงที่สอง โดยไม่มีการแสดงโปรแกรมการขับเคลื่อน และเกียร์ที่ใช้ (รุ่นประเทศ)
  

รุ่นประเทศ

สหรัฐอเมริกา : รุ่นของไฟแสดงและไฟเตือน :

• 'SERVICE ENGINE SOON' จะแสดงขึ้นแทนไฟตรวจเช็คเครื่องยนต์
  
• ABS จะแสดงขึ้นแทนสัญลักษณ์ ABS
  
• BRAKE จะแสดงขึ้นแทนสัญลักษณ์ไฟเตือนเบรคทั่วไป
  
• นอกจากนี้ ข้อความ 'CHECK GAS CAP' จะแสดงขึ้น ถ้าฝาปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงเปิดอยู่
  
• ไม่มีไฟแสดงและไฟเตือน (สีเหลือง) สำหรับไฟตัดหมอกด้านหลัง
  

เสียงเตือนสวิตช์กุญแจเป็นฟังก์ชั่นที่ตรงตามข้อกำหนดของสหรัฐอเมริกา เสียงเตือนที่ดังเป็นระยะๆ จะดังเมื่อสวิตช์กุญแจยังคงเสียบอยู่และประตูคนขับเปิดอยู่พร้อมกับเทอร์มินอล 15 OFF ยกเลิกเสียงเตือนได้โดยถอดสวิตช์กุญแจ ปิดประตูคนขับหรือหลังจาก 30 นาทีหลังจากการดังต่อเนื่อง

ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยทำงานเมื่อเทอร์มินอล 15 ON ถ้าตรวจไม่พบการรัดเข็มขัดนิรภัย เสียงเตือนเป็นระยะๆ จะดังนานประมาณ 6 วินาที จากนั้น เฉพาะไฟเตือนและไฟแสดงเท่านั้นที่ยังคงติดสว่างอยู่

ประเทศอาหรับ : เมื่อเกินขีดจำกัดความเร็วตามกฎหมายที่โรงงานให้รหัสไว้ที่ 120 กม./ชม.เสียงเตือนแบบดังครั้งเดียวจะดังขึ้น (การเตือนถึงขีดจำกัด) เสียงเตือนความเร็วถัดไปจะทำงานก็ต่อเมื่อขับรถยนต์เป็นระยะทางมากกว่า 4 กม./ชม. และน้อยกว่าขีดจำกัดความเร็ว เมื่อถึงขีดจำกัดการเตือนความเร็ว ค่าความเร็วรถจะแสดงขึ้นที่จอ LC โดยกะพริบ 1 ครั้ง

ประเทศญี่ปุ่น : เสียงเตือนขณะขับถอยหลังและเสียงเตือนระยะทางจะส่งออกมาจากชุดเสียงสัญญาณภายนอก

การวิเคราะห์

การวิเคราะห์ได้อธิบายไว้ในคำอธิบายลักษณะการทำงานของแผงหน้าปัด : ฟังก์ชั่นทดสอบภายใน, ตัวแสดงกำหนดการเข้ารับบริการ (SIA), ข้อปฏิบัติสำหรับการเปลี่ยนชุดควบคุม