TCU สำหรับ E60, E87, E90 : การลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว (เฉพาะในประเทศเกาหลีเท่านั้น)
ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2005 เป็นต้นไป ให้ตั้งระบบโทรศัพท์ในประเทศเกาหลีดังนี้ : การเชื่อมต่อระหว่างชุดควบคุม TCU และอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวที่ใช้ได้กับ Bluetooth จะต้องทำการเชื่อมต่อแบบคลื่นวิทยุโดยใช้มาตรฐานคลื่นวิทยุ Bluetooth การเชื่อมต่อระหว่างอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวและโทรศัพท์มือถือจะต้องเป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สาย
เพื่อให้การเชื่อมต่อ Bluetooth ระหว่างชุดควบคุมและอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวทำงาน จะต้องทำการลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวหนึ่งครั้งก่อนที่ชุดควบคุม TCU
ขั้นตอนการทำงานโดยใช้ CCC/M-ASK
การลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวโดยไม่ใช้เครื่องเทสเตอร์ DIS ตลอดระยะเวลาทั้งหมดในระหว่างการลงทะเบียน จะต้องเสียบโทรศัพท์มือถือที่ปิดเครื่องแล้วเข้ากับอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- บนจอแสดงการควบคุม ให้เลือกเมนูต่อไปนี้ :
เมนูเริ่มต้น --> เมนู ”การตั้งค่า” (กดปุ่มควบคุม) --> รายการเมนู ”การตั้งค่าการรับส่งสัญญาณ” --> รายการเมนู ”Bluetooth” --> รายการเมนู ”การตั้งค่า”
สั่งงาน Bluetooth เมื่อการรับส่งสัญญาณของ Bluetooth ทำงาน ข้อความ ”การรับส่งสัญญาณของ Bluetooth ทำงาน” จะแสดงขึ้นพร้อมเครื่องหมายถูกที่ต้นบรรทัด
- ออกจากเมนู ”การตั้งค่า” ในเมนู ”Bluetooth” ให้เลือกรายการเมนู ”โทรศัพท์” ”สามารถต่อ Bluetooth ได้ในเมนูนี้” จะแสดงขึ้น
- ใส่รหัสผ่าน Bluetooth ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวโดยใช้ปุ่มควบคุม รหัสผ่านตัวเลข 4 หลักนี้จะปรากฏอยู่ :
- บนป้ายที่ติดอยู่บนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- และบนเอกสารที่ส่งมาพร้อมกับอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- จากนั้น จะทำการเชื่อมต่อระหว่างชุดควบคุม TCU และอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวโดยอัตโนมัติ การเชื่อมต่ออาจใช้เวลาถึง 2 นาที เมื่อทำการเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชื่อของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวจะแสดงขึ้นบนจอแสดงการควบคุม
ขั้นตอนการทำงานโดยใช้ RAD2
การลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวโดยไม่ใช้เครื่องเทสเตอร์ DIS ตลอดระยะเวลาทั้งหมดในระหว่างการลงทะเบียน จะต้องเสียบโทรศัพท์มือถือที่ปิดเครื่องแล้วเข้ากับอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- กดปุ่ม ”เมนู” บนวิทยุ
- บนจอแสดงการควบคุม ให้เลือกรายการ ”โทรศัพท์”
- บนจอแสดงการควบคุม ให้เลือกรายการ ”BT ” รายการของอุปกรณ์ Bluetooth ที่ต่อกับชุดควบคุม TCU จะปรากฏขึ้น ชุดควบคุม TCU สามารถรองรับชุดควบคุม Bluetooth ในแต่ละครั้งได้มากที่สุด 4 ชุด และเพื่อให้สามารถลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวได้ รายการของอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่ออยู่จะมีได้มากที่สุดเท่ากับ 3 รายการ ถ้ามีรายการมากเกินไป ต้องลบรายการที่มีอยู่โดยใช้ ”ลบ” จนกระทั่งเหลือ 3 รายการ หรือน้อยกว่านี้
- ใส่โทรศัพท์มือถือที่ปิดสวิตช์แล้วเข้าในอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว ไฟ LED ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวจะติดสว่างขึ้นหรือกะพริบ
- บนจอแสดงการควบคุม ให้เลือกรายการ ”ค้นหา” ข้อความ ”จับคู่อุปกรณ์ Bluetooth ...” จะปรากฏขึ้นบนจอแสดงการควบคุม
- รอจนกระทั่งข้อความต่อไปนี้ปรากฏขึ้นบนจอแสดงการควบคุม : ”อุปกรณ์ภายนอกพร้อม !” อาจใช้เวลาในการรอถึง 2 นาที
- บนจอแสดงการควบคุม ให้เลือกรายการ ”เพิ่ม”
- ใส่รหัสผ่าน Bluetooth ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวบนจอแสดงการควบคุม รหัสผ่านนี้จะปรากฏอยู่ :
- บนป้ายที่ติดอยู่บนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- และบนเอกสารที่ส่งมาพร้อมกับอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- บนจอแสดงการควบคุม ให้ยืนยันรายการด้วย ”OK”
- ถ้าการลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวเสร็จสมบูรณ์ ไฟ LED ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวจะไม่ติดสว่าง นอกจากนี้ จะปรากฏชื่อของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวขึ้น ในรายการของอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่ออยู่
อะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวทุกตัวจะมีชื่อเหมือนกัน อะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวที่ทำงานอยู่ จะมีเครื่องหมายเลือกปรากฏอยู่ในรายการที่ด้านหน้าของรายชื่อ ถ้าต้องการตรวจเช็คว่าอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวดังกล่าวทำงานอยู่หรือไม่ ให้ถอดสายโทรศัพท์มือถือออก ถ้าอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวดังกล่าวทำงานอยู่ เครื่องหมายเลือกที่อยู่หน้ารายชื่อของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว จะเปลี่ยนเป็นหมายเลขบนจอแสดงการควบคุม
- ถ้าการลงทะเบียนอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวไม่เสร็จสมบูรณ์ จะปรากฏข้อความ ”ไม่สามารถจับคู่ Bluetooth ได้” ขึ้นบนจอแสดงการควบคุม
สาเหตุที่เป็นไปได้ คือ :
- ใส่รหัส Bluetooth ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงกับรหัส Bluetooth ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว ในกรณีนี้ ให้ทำการลงทะเบียนซ้ำอีกครั้ง
- ชุดควบคุม TCU จะพยายามเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆ กรณีดังกล่าวนี้อาจเกิดขึ้นได้ ถ้ารถคันอื่นที่อยู่ใกล้เคียง มีอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวติดตั้งอยู่ด้วย ในกรณีนี้ ให้นำอุปกรณ์ Bluetooth ทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียงออกให้พ้นจากรัศมีการทำงาน และทำการลงทะเบียนอีกครั้ง
ข้อมูลเพิ่มเติม : ขั้นตอนการตรวจเช็คความสามารถในการทำงานของไฟ LED ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
- บิดสวิตช์ให้เทอร์มินอล 15 อยู่ที่ตำแหน่ง ON
- ใส่โทรศัพท์มือถือเข้าในอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัว
ถ้าไฟ LED ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวติดสว่างขึ้น แสดงว่ามีการทำงานถูกต้อง ถ้าไฟ LED ของอะแดปเตอร์แบบล็อคในตัวไม่ติดสว่างขึ้น แสดงว่ามีการชำรุด