พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก

สำหรับรถรุ่น E92 พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก (EPS : พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์) จะเริ่มนำมาใช้ในรถ BMW ซีรี่ส์ 3 EPS จะถูกนำมาใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ดีเซล M57TU2 ตั้งแต่ 09/2006 โดยจะค่อยๆ นำ EPS มาเริ่มใช้เป็นข้อปฏิบัติ CO2 ในรุ่นอื่นๆ ทั้งหมด

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก (EPS) แตกต่างจากพวงมาลัยเพาเวอร์ทั่วไปคือ ในพวงมาลัยจะมีระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยว EPS จะช่วยผ่อนแรงคนขับด้วยมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์แบบไฟฟ้าแทนที่จะเป็นมอเตอร์ไฮดรอลิก
มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์จะทำงานเมื่อมีการหมุนพวงมาลัยเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์จะไม่ใช้ไฟฟ้าในระหว่างที่ขับทางตรง

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิกมีข้อดีดังนี้ :

สำหรับรถ E92 ตัวขับของ EPS จะถูกจัดวางมาในลักษณะที่ขนานไปกับเพลา การจัดวางโดยขนานไปกับเพลาถือเป็นข้อดี เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดวางบนเฟืองพีเนียนหรือคอพวงมาลัย ประโยชน์ของการจัดวางแบบขนานไปกับเพลาคือทำให้สามารถได้รับแรงแทร็กรอดการบังคับเลี้ยว นอกจากนั้น ยังส่งผลดีในส่วนของคุณสมบัติในการสั่นสะเทือน รวมทั้งรูปแบบเสียง

GR_FB3206010

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

แร็ค

2

เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยว

3

ชุดควบคุม

4

เซอร์โวมอเตอร์

5

เฟืองลดความเร็ว

 

 


คำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับอุปกรณ์

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิกประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ :

ชุดเซอร์โว

ชุดเซอร์โวประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ :

ชุดควบคุม EPS เป็นส่วนหนึ่งของพวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก ชุดควบคุม EPS จะต่อเข้ากับระบบไฟฟ้ารถยนต์โดยใช้ปลั๊กต่อ 2 ตัว
เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยวจะต่อโดยใช้ปลั๊กต่ออื่นที่ชุดควบคุม EPS

จำนวนเส้นกราฟลักษณะการทำงานของแรงช่วยเซอร์โว, การหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟ รวมทั้งลักษณะการหน่วงจะถูกบันทึกไว้ในชุดควบคุม EPS ค่าที่ได้จากการประมวลผลตัวแปรอินพุตที่เพิ่มขึ้นในเส้นกราฟลักษณะการทำงานแต่ละเส้น จะส่งผลต่อระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยวที่จำเป็น

ที่ยึดฟิวส์ด้านหลัง (ช่องเก็บสัมภาระ) จะจ่ายไฟให้กับชุดเซอร์โวโดยใช้เทอร์มินอล 30

GR_FB3206011

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

เซอร์โวมอเตอร์

2

ชุดควบคุม EPS

3

ปลั๊กต่อที่ต่ออยู่กับเซ็นเซอร์โมเมนตัมการบังคับเลี้ยว

4

ปลั๊กต่อที่ต่ออยู่กับเครือข่ายรถยนต์


มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์พร้อมเซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์

มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์เป็นมอเตอร์กระแสไฟตรง (DC) แบบน็อนคอลเลคเตอร์ (์Non-Collector) ที่สอดคล้องกัน (แม่เหล็กถาวร) มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนเฟืองลดความเร็ว ซึ่งจะส่งผ่านกำลังส่งออกของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ไปยังแร็ค

เซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์จะมี 2 ตัว (อีกชุดหนึ่ง) ในแผงวงจรของชุดควบคุม เซ็นเซอร์ทั้งสองตัวจะใช้หลักการทำงานเดียวกันกับเซ็นเซอร์แบบฮอลล์ (เซ็นเซอร์แบบฮอลล์พร้อมล้อแม่เหล็ก) ล้อแม่เหล็กจะติดตั้งอยู่กับแกนมอเตอร์
เซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์ 1 จะตรวจหาตำแหน่งของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณคลื่นรูปซายน์และสัญญาณคลื่นรูปโคไซน์ สัญญาณดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อตรวจหาตำแหน่งการหมุนของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ เซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์ 2 ใช้สำหรับตรวจสอบ (ตรวจเช็คความสอดคล้องกัน)
เซ็นเซอร์ทั้งสองจะได้รับแรงดันไฟจ่ายที่ส่งมาจากชุดควบคุม EPS

เฟืองลดความเร็ว

เฟืองลดความเร็วจะส่งผ่านกำลังส่งออกของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์ไปยังแร็ค อัตราการหมุนระหว่างมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์และพวงมาลัยอยู่ที่ประมาณ 21:1

เฟืองลดความเร็วประกอบด้วยตัวขับสายพานและสกรูแบบกลม สกรูแบบกลมจะเพิ่มขึ้น 7 มม. ต่อรอบการหมุนหนึ่งครั้ง
มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนสายพานแบบมีร่องฟัน ตัวขับสายพานจะลดลง 2.85 : 1. สายพานแบบมีร่องฟันจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนสกรูแบบกลม สกรูแบบกลมจะมีการหมุนกลับภายใน (5 รอบ) สกรูแบบกลมถูกออกแบบมาให้มีเสียงรบกวนน้อยที่สุด

GR_FB3206012

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

เพลาขับของมอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์

2

สายพานแบบมีร่องฟัน

3

แร็ค

4

ขอบโซ่


เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยว

เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยวจะทำหน้าที่ตรวจจับแบบดิจิตอล เพื่อหาโมเมนตัมการบังคับเลี้ยวที่สั่งงานโดยคนขับ ช่วงการทำงานคือรอบการหมุนพวงมาลัย 4 รอบ (ตรงกับ 1440°).

GR_FB3206013

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

เฟืองพีเนียนพร้อมทอร์ชั่นบาร์ (Torsion bar)

2

เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยว

เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยวประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 2 ตัว (อีกชุดหนึ่ง) เซ็นเซอร์ทั้งสองตัวจะใช้หลักการทำงานเดียวกันกับเซ็นเซอร์แบบฮอลล์ (เซ็นเซอร์แบบฮอลล์พร้อมล้อแม่เหล็ก)

โมเมนตัมการบังคับเลี้ยวจะทำให้ทอร์ชั่นบาร์ (Torsion bar) เกิดการบิด ในขณะเดียวกัน ทอร์ชั่นบาร์ (Torsion bar) ก็จะส่งโมเมนตัมการบังคับเลี้ยวผ่านไปยังเฟืองพีเนียน
เซ็นเซอร์ทั้งสองจะส่งสัญญาณคลื่นรูปซายน์และสัญญาณคลื่นรูปโคไซน์ โมเมนตัมการบังคับเลี้ยวที่สั่งงานโดยคนขับสามารถตรวจพบได้จากสัญญาณดังกล่าว เซ็นเซอร์สองตัวจะทำงานโดยไม่เกี่ยวข้องกัน เซ็นเซอร์ตัวที่ 2 มีอยู่เนื่องจากระบบที่มีลำดับความสำคัญสูงกว่า (อีกระบบหนึ่ง)
เซ็นเซอร์ทั้งสองตัวจะตรวจหาข้อมูลแบบดิจิตอล สัญญาณจะถูกส่งผ่านสายต่อแบบคู่อีกอันหนึ่ง
เซ็นเซอร์ทั้งสองจะได้รับแรงดันไฟจ่ายที่ส่งมาจากชุดควบคุม EPS

ชุดควบคุมอื่นๆ ต่อไปนี้จะติดต่อกับพวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก :

GR_FB3206015

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

เซ็นเซอร์โมเมนตัมในการบังคับเลี้ยว

2

ชุดควบคุม EPS

3

DME (ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเครื่องยนต์แบบดิจิตอล) หรือ DDE (ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเครื่องดีเซลแบบดิจิตอล)

4

DSC (ระบบควบคุมเสถียรภาพ)

5

ชุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกล่องต่อไฟ (JBE)

6

แผงสวิตช์ที่คอพวงมาลัย (SZL)

7

แผงหน้าปัด (KOMBI)

8

ระบบการเข้ารถ (CAS)

F-CAN

CAN สำหรับแชสซี

K-CAN

CAN สำหรับระบบตัวถัง

เทอร์มินอล 15 WUP

สายกระตุ้นให้กลับมาทำงาน เทอร์มินอล 15

PT-CAN

CAN สำหรับระบบส่งกำลัง


DSC : ระบบควบคุมเสถียรภาพ

ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะขับขี่จะส่งความเร็วในการขับขี่ในรูปของสัญญาณบัส ดังนั้น ชุดควบคุมที่เกี่ยวข้องจะต่อผ่าน PT-CAN (CAN สำหรับระบบส่งกำลัง) เข้ากับ EPS

SZL : แผงสวิตช์ที่คอพวงมาลัย

เซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยวรวมอยู่ในชุดสวิตช์ที่คอพวงมาลัย (SZL) เซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยวจะส่งข้อมูลมุมบังคับเลี้ยวไปในรูปของสัญญาณ จะมีการตรวจเช็คความสอดคล้องกันของสัญญาณเซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยว เพื่อให้ตรงกับสัญญาณของเซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์ ถ้าค่าความเบี่ยงเบนมีมากเกินไป ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์จะหยุดทำงานพร้อมมีข้อมูลหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ
EPS จะประมวลผลมุมบังคับเลี้ยวและความเร็วของมุมบังคับเลี้ยวจากสัญญาณของเซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์ สัญญาณของเซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยวจะจำเป็นต้องใช้ก็ต่อเมื่อทำการกำหนดการทำงานและตรวจเช็คความสอดคล้องกัน

ชุดสวิตช์ส่วนกลางที่คอพวงมาลัยจะต่อผ่าน PT-CAN

DME และ DDE : ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเครื่องยนต์แบบดิจิตอล /หรือ ชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเครื่องดีเซลแบบดิจิตอล

ระบบควบคุมการทำงานเครื่องยนต์จะส่งสัญญาณ ”เครื่องยนต์กำลังทำงาน” บน PT-CAN สำหรับเงื่อนไขการทำงานบางอย่าง (เช่น สตาร์ทเครื่องยนต์) ความเร็วรอบเครื่องจำเป็นจะต้องนำไปใช้ในรูปแบบของสัญญาณ

KOMBI : แผงหน้าปัด

ในกรณีที่พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก (EPS) ผิดปกติ จะมีสัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลสีเหลืองปรากฏขึ้นในจอ LC ในเวลาเดียวกันไฟแสดงตำแหน่งที่แน่นอนจะติดสว่างขึ้นในแผงหน้าปัด
สัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลมีความความหมายดังต่อไปนี้ :
”EPS without function”

GR_FB3206014

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

แผงหน้าปัด

2

ไฟแสดงและสัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรล

เมื่อข้อความเช็ค-คอนโทรลติดสว่างขึ้น อาจมีสาเหตุมาจาก :


การทำงานต่างๆ ของระบบ

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบอิเล็กโทรแม็คคานิก (EPS) ประกอบด้วยการทำงานของระบบดังต่อไปนี้ :

ระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยว

ในระบบจะมีเซอร์โวโทรนิก (ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยวแบบปรับตามความเร็วในการขับขี่) รวมอยู่ด้วย ชุดควบคุม EPS จะกำหนดแรงช่วยในการบังคับเลี้ยวที่จำเป็นจากตัวแปรอินพุตต่างๆ

GR_FB3206016

ดัชนี

คำอธิบาย

ดัชนี

คำอธิบาย

1

โมเมนต์ของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์

2

ความเร็วรถ

3

โมเมนตัมการบังคับเลี้ยวที่สั่งงานโดยคนขับ

 

 

แผนผังลักษณะการทำงานสำหรับการเสริมและการหน่วงจะถูกบันทึกไว้ในชุดควบคุม ค่าที่ได้จากการประมวลผลตัวแปรอินพุตที่เพิ่มขึ้นในเส้นกราฟลักษณะการทำงานแต่ละเส้น จะส่งผลต่อระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยวที่จำเป็น มอเตอร์แอ๊คทูเอเตอร์และเฟืองลดความเร็วจะช่วยให้มีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์

ตัวแปรอินพุตที่สำคัญสำหรับระบบช่วยผ่อนแรงในการบังคับเลี้ยว ได้แก่ :

EPS จะช่วยปรับความเบี่ยงเบนของสัญญาณต่างๆ ที่ส่งมาจากเซ็นเซอร์ตำแหน่งมอเตอร์และเซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยว (เช่น การขับรถทางตรงบนขอบถนน)

การหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟ

หลังจากขับรถเข้าโค้ง การหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟจะช่วยให้การบังคับเลี้ยวกลับมาอยู่ในตำแหน่งการขับขี่ทางตรง ทันทีที่คนขับยกเลิกการสั่งงานโมเมนตัมการบังคับเลี้ยว ในการตั้งศูนย์ ชุดควบคุม EPS ต้องใช้มุมบังคับเลี้ยวจากเซ็นเซอร์มุมบังคับเลี้ยว การหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟช่วยให้สามารถทำการบังคับเลี้ยวได้อย่างสอดคล้องในทุกอุณหภูมิทำงาน การหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟกลับมาจากตำแหน่งสุดเป็นสิ่งที่สำคัญมากเมื่ออยู่ที่อุณหภูมิระดับต่ำ เนื่องจากจะทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

แกนปรับแบบไจโรจะรวมอยู่ในการหมุนพวงมาลัยแบบแอ็คทีฟ

ข้อมูลส่งกลับของถนนแบบแอ็คทีฟ

ข้อมูลเกี่ยวกับผิวถนน เช่น การเปลี่ยนแปลงของค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานหรือคุณสมบัติต่างๆ EPS จะให้ข้อมูลโดยเปลี่ยนโมเมนตัมการบังคับเลี้ยว

ตัวแปรต่างๆ ต่อไปนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อคำนวณอัตราเร่งที่ช่วงล่างหน้า :

หลังจากนั้น EPS จะคำนวณสัดส่วนของโมเมนตัมการบังคับเลี้ยวสำหรับข้อมูลส่งกลับของถนนแบบแอ็คทีฟ

การตรวจจับแรงดันไฟเกิน และการตรวจจับแรงดันไฟตก

ในกรณีที่ค่าแรงดันไฟฟ้าเกินสูงกว่า 17 โวลท์ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์จะหยุดทำงาน ชุดควบคุม EPS จะบันทึกความผิดปกติไว้ สัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลจะติดสว่างขึ้นในแผงหน้าปัด เมื่อแรงดันไฟลดลงต่ำกว่า 16 โวลท์ แรงช่วยในการบังคับเลี้ยวจะกลับไปเป็นค่าที่ต้องการในขณะนั้น สัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลจะดับไปเมื่อแรงช่วยในการบังคับเลี้ยวถึงค่าที่ต้องการ 100 %

ในกรณีที่ค่าแรงดันไฟตกต่ำกว่า 10.5 โวลท์ เอาต์พุตมอเตอร์จะลดลง (แบบเชิงเส้น) อยู่ที่ 9 โวลท์ หากต่ำกว่า 9 โวลท์ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์จะไม่ทำงานอีกต่อไป ข้อความเช็ค-คอนโทรลจะแสดงขึ้นที่ 40 % ของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (พร้อมข้อมูลหน่วยความจำรหัสความผิดปกติ) เมื่อแรงดันไฟเพิ่มขึ้นเกิน 10 โวลท์ แรงช่วยในการบังคับเลี้ยวจะกลับไปเป็นค่าที่ต้องการในขณะนั้น สัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลจะดับไปเมื่อแรงช่วยในการบังคับเลี้ยวถึงค่าที่ต้องการ 100 %

การป้องกันอุณหภูมิสูงเกิน

สำหรับการป้องกันอุณหภูมิสูงเกิน EPS จะช่วยลดแรงบิดเครื่องยนต์ที่กำหนดตามอุณหภูมิชุดส่งเอาต์พุตระหว่าง 0 % และ 100 %. จากขั้นตอนนี้ ชุดควบคุม EPS จะทำการลดในขั้นตอนต่อไปนี้ :

การตรวจจับการโอเวอร์โหลด

EPS จะตรวจจับการโอเวอร์โหลดเมื่อมีการบิดพวงมาลัยจนกระทั่งรถชิดกับขอบถนน สัญญาณต่างๆ ต่อไปนี้จะรวมอยู่ในการตรวจจับ :

ตำแหน่งสุดตามการทำงานของซอฟท์แวร์

EPS มีตำแหน่งสุดที่ด้านซ้ายและขวาตำแหน่งสุดตามการทำงานของซอฟท์แวร์ ซึ่งจะช่วยป้องกันตำแหน่งสุดทางกล (บัฟเฟอร์) ไม่ให้เกิดการสึกหรอเร็วก่อนกำหนด ฟังก์ชั่นซอฟท์แวร์จะใช้สัญญาณต่อไปนี้ในการประมวลผลตำแหน่งสุด :

ข้อสังเกตสำหรับฝ่ายบริการ :

ข้อมูลทั่วไป

จุดสำคัญ ! การรับรู้และกำหนดค่าตำแหน่งสุด

หลังจากที่เปลี่ยนพวงมาลัยแล้ว จะต้องทำการรับรู้และกำหนดค่าตำแหน่งสุดของกระปุกพวงมาลัยอีกครั้ง
การรับรู้และกำหนดค่าตำแหน่งสุดที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์หยุดทำงานแบบกระทันหันที่ตำแหน่งสุดได้

การรับรู้และกำหนดค่าตำแหน่งสุด จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ต่อไปนี้ :

  1. จอดรถบนพื้นราบ
  2. ล้อหน้าจะต้องไม่ถูกล็อคไว้เพื่อให้สามารถหมุนพวงมาลัยได้
  3. เครื่องยนต์กำลังทำงาน
  4. รถจอดอยู่กับที่
  5. ไม่มีการเหยียบแป้นเบรกและไม่ได้เข้าเบรกจอดรถ
  6. ไม่มีข้อมูลหน่วยความจำรหัสความผิดปกติในระบบควบคุมเสถียรภาพ (DSC) และชุดสวิตช์ที่คอพวงมาลัย (SZL)
  7. ไฟแสดงและสัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลติดสว่างขึ้นที่แผงหน้าปัด
  8. พวงมาลัยอยู่ที่ตำแหน่งตรงไปข้างหน้า

สำหรับการรับรู้และกำหนดค่าตำแหน่งสุด จะต้องค่อยๆ หมุนพวงมาลัยไปทางด้านซ้ายจนสุดหนึ่งครั้ง และหมุนไปทางทางด้านขวาจนสุดหนึ่งครั้งเช่นกัน ความเร็วในการหมุนพวงมาลัยจะต้องต่ำกว่า 1 รอบ ต่อ 1 วินาที เมื่อถึงตำแหน่งสุด ค่อยๆ เพิ่มแรงในการหมุนพวงมาลัยต่อไปจนกระทั่งไม่สามารถหมุนได้อีกต่อไป

หลังจากประมาณ 5 วินาที ไฟแสดงและสัญลักษณ์เช็ค-คอนโทรลที่แผงหน้าปัดจะดับไป

คำแนะนำการวิเคราะห์

ฟังก์ชั่นบริการที่มีอยู่ในระบบการวิเคราะห์ของ BMW มีดังนี้ :

ฟังก์ชั่นบริการใช้เพื่อลบค่าต่างๆ ของตำแหน่งสุด (เช่น หลังจากทำการรับรู้และกำหนดค่าไม่ถูกต้อง) ในขณะเดียวกัน ค่าความเบี่ยงเบนของมุมบังคับเลี้ยวก็จะถูกลบออกไป

หมายเหตุเกี่ยวกับการให้รหัส / การตั้งโปรแกรม

หลังจากทำการเปลี่ยนแล้ว ต้องให้รหัสชุดควบคุม EPS

เงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการสั่งงานและยกเลิกการทำงาน

ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์จะทำงานตามเงื่อนไขต่อไปนี้ :

ขณะที่เครื่องยนต์หยุดนิ่งและความเร็วในการขับขี่อยู่ที่ 0 ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์จะไม่สามารถใช้งานได้

อาจเกิดความผิดพลาดเนื่องจากการพิมพ์หรือความผิดพลาดอื่นๆ ได้. ข้อมูลทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า